77 ปี ‘แว่นท็อปเจริญ’ อาณาจักรแว่นตา ‘ตรีพรชัยศักดิ์’ รวยเงียบๆกว่า 5,000 ลบ.

บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้บริหารร้าน “แว่นท็อปเจริญ” ในฐานะผู้นำบริการด้านสายตาแบบครบวงจร ได้ดำเนินการ “แปรสภาพเป็นบริษัท” ของครอบครัว “ตรีพรชัยศักดิ์” เป็น “มหาชน” เรียบร้อยแล้ว

เหตุผลเพื่อมุ่งขยายโอกาสสร้างการเติบโตบนรากฐานความสำเร็จอันยาวนานในฐานะ ซึ่งจากนี้ต้องติดตามสเต็ปต่อไปของบริษัท จะเห็นความเคลื่อนไหวอย่างไร ทั้งการยื่นไฟล์ลิ่ง การเสนอขายหุ้น IPO ให้ประชาชน จะเกิดขึ้นเมื่อใด

77 ปี อาณาจักรแว่นตาตระกูล “ตรีพรชัยศักดิ์”

เรื่องราวของร้านแว่นท็อปเจริญเชิงลึกไม่ได้ปรากฏบนหน้าสื่อมากนัก ทั้งแผนธุรกิจ การเติบโต การบริหารกิจการจากรุ่นสู่รุ่น มีเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง เพราะ “เจ้าของ” ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง รวมถึงทายาทตระกูล “ตรีพรชัยศักดิ์” มักขออยู่เงียบๆ แม้ในอดีต “แว่นท็อปเจริญ” จะมีกิจกรรมการตลาด ร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ หากสื่อเข้าไปประชิดตัว มักจะเลี่ยงตอบคำถาม และหายวับ! ในทันที

ทว่า ในวาระครบรอบ 77 ปีของแว่นท็อปเจริญ นอกจากมีการสร้างสรรค์งานโฆษณา ปลุกการรับรู้แบรนด์อย่างต่อเนื่อง ยังมีการประกาศกลยุทธ์มุ่งสู่การเติบโตในระดับ “ภูมิภาค” ด้วย

“ในวาระครบรอบ 77 ปี แว่นท็อปเจริญ ทางแบรนด์จึงมีกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเติบโตในภูมิภาค รวมถึงการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ล่าสุด แว่นท็อปเจริญจึงได้มีการปรับอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูทันสมัย ด้วยนวัตกรรม เข้าถึงง่าย ใช้สีสันเข้ามาช่วยชุบแบรนด์ให้สนุกและมีชีวิตชีวาเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย” นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือแว่นท็อปเจริญ เคยให้ข้อมูล

นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ทายาทรุ่น 2 ผู้เป็นแม่ทัพเคลื่อนแว่นท็อปเจริญ

สำหรับแว่นท็อปเจริญ ก่อตั้งโดย “เจริญ ตรีพรชัยศักดิ์” จากแรกเริ่มเป็นห้างแว่น

ท็อปเจริญชื่อ “เจริญการแว่น” จุดเด่นคือมีหน่วยรถบริการนอกสถานที่เพื่อให้บริการตรวจวัดสายตาแก่ลูกค้าทั่ัวไทย เพื่อ “เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย” นอกเหนือจากมีหน้าร้าน

ทายาทรุ่น 2 สานต่อ แปรสภาพเป็น “มหาชน”

จากรุ่นพ่อผู้ก่อตั้ง ปัจจุบันทายาทรุ่น 2 ครอบครัวตรีพรชัยศักดิ์ อย่าง “นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์” ไม่เพียงรับบทเป็นแม่ทัพเคลื่อนธุรกิจ ยังเป็นผู้พลิกโฉมวงการร้านแว่นแบบดั้งเดิมให้มีความทันสมัยด้วย ทั้งมีการนำเทคโนโลยีในการตรวจวัดสายตามาใช้ ด้านบริการ มีผู้บริโภคไม่น้อยที่ชื่นชอบ เพราะตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงใจ

แฟล็กชิปสโตร์ สาขาถนนภูเก็ต

ในด้านการตลาด “แว่นท็อปเจริญ” มีหน้าร้านที่เป็นเสมือน “กระบอกเสียง” สร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค เพราะแน่นอนว่า การเลือก “ทำเล” เปิดร้าน ถือว่าอ่านเกมได้น่าสนใจ นอกจากเลือกชุมชน มีทราฟฟิกหรือกลุ่มเป้าหมายมากพอ การดีไซน์ ออกแบบร้านยังเตะตา เช่น ร้านแฟล็กชิปสโตร์ บนทำเลทองที่สยามสแควร์ ซอย 7 การเนรมิตอาคารย่านเมืองเก่าเปิดแฟล็กชิปสโตร์ สาขาถนนภูเก็ตให้เป็นศูนย์รวมแว่นตาและบริการด้านสายตาแบบครบวงจร ไม่เพียงเอาใจลูกค้าที่ต้องการแว่นตา แต่ทำให้เป็นจุดเช็กอินสำหรับนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติด้วย

อีกกลยุทธ์ด้านราคา เพื่อดึงดูกลุ่มเป้าหมาย จะเห็นว่า “แว่นท็อปเจริญ” มีการ “ลดราคา” เป็นประจำ และไม่ใช่น้อยๆ เช่น ประกาศลดราคาทั้งร้าน 70% ทำให้คนมีปัญหาสายตา หรือต้องการแว่นตาแฟชั่น ไปช้อปซื้อสินค้าได้ ที่สำคัญยังมีบริการดูแลสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญและนักทัศนมาตร (Optometrist) ที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี แลสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำให้เลือกหลากหลาย พร้อมการรับประกันสินค้าของแท้ 100% เป็นต้น

ตัวอย่างโปรโมชั่นทุบราคาดึงลูกค้า สิ้นสุด 31 พ.ค.2567

ล่าสุด “ทายาทรุ่น 2” ยังสร้างสตอรี่ใหม่ให้บริษัทด้วยการแปลงสภาพธุรกิจสู่ “มหาชน” เพื่อสานเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำธุรกิจร้านแว่นตาแบบครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพราะในไทยมีร้านทะลุ 2,000 สาขาแล้ว แต่บริษัทยังมองโอกาสพัฒนาสาขาการให้บริการในรูปแบบของ “Flagship Store ขนาดใหญ่” ไปเจาะหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อมอบประสบการณ์การมองเห็นแบบลักชัวรีให้ลูกค้าเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้จะเห็นเกมกลยุทธ์การเติบโตในอนาคต ด้วยการปักหมุดเปิดสาขาไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อสอดรับวิสัยทัศน์ “ผู้นำการบริการด้านสายตาที่เชี่ยวชาญครบวงจร พร้อมให้การดูแลที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในอาเซียน”

อาณาจักรรวยเงียบๆกว่า 5,000 ล้านบาท

หนึ่งในความสนใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับ “แว่นท็อปเจริญ” มีมากมาย โดยเฉพาะแต่ละวันร้านขายแว่นตาได้จำนวนกี่ชิ้น เพราะบ้างแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ว่าร้านค่อนข้างเงียบ มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการน้อย

นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความมั่งของบริษัท เพราะแต่ละร้านที่เปิด ถือว่าทุ่มทุนไม่น้อย ทั้งออกแบบ ดีไซน์ จำนวนสินค้า พนักงาน ฯ แต่สวนทางกับทราฟฟิกในร้าน จึงมีเครื่องหมายคำถามโตๆความอู้ฟู่! ซึ่งประเด็นเหล่านั้น มีสื่อสำนักหนึ่งได้สัมภาษณ์ทายาท และตอบคำถามไว้แล้ว เช่น ขายแว่นตาได้ 1-2 ชิ้น ธุรกิจก็อยู่ได้แล้ว (ผู้สนใจไปสืบค้นหาอ่านได้)

จุดแข็งของแว่นท็อปเจริญ

อย่างไรก็ตาม หากดูข้อมูลของ บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด (มหาชน) จะพบว่า มีทุนจดทะเบียนถึง 2,450 ล้านบาท โดยบริษัทมีรายนามคณะกรรมการ เช่น นายนพศักดิ์, นางสาวนภารัตน์, นางสาวพัชรี ตรีพรชัยศักดิ์ และรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ เป็นต้น

สำหรับอาณาจักร “แว่นท็อปเจริญ” ถือว่ารวยเงียบกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการแต่ละปีมีการเติบโตต่อเนื่อง

ปี 2566 รายได้รวมกว่า 5,784 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 281 ล้านบาท ลดลง 55.03%

ปี 2565 รายได้รวมกว่า 5,414 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 626 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.28%

ปี 2564 รายได้รวมกว่า 4,273 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 284 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.41%

ปี 2563 รายได้รวมกว่า 4,432 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 133 ล้านบาท ลดลง 0.55%

ปี 2562 รายได้รวมกว่า 5,041 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 134 ล้านบาท ลดลง 21.04%

ปี 2561 รายได้รวมกว่า 4,555 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 169 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.28%

ปี 2560 รายได้รวมกว่า 4,083 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 136 ล้านบาท ลดลง 18.45%

"แว่นท็อปเจริญ" ยังเป็นผู้เล่นที่ครองส่วนแบ่งตลาดธุรกิจร้านแว่นตาในไทยถึงกว่า 41% โดยยูโรมอนิเตอร์ระบุภาพรวมตลาดแว่นตาปี 2567 จะมีมูลค่า 1.56 หมื่นล้านบาท และแบ่งเป็น ตลาดแว่นสายตา แว่นสายตาแฟชั่น แว่นกันแดด รวมถึงคอนแทคเลนส์

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...