ผ่าแผนเร่งโตอาณาจักร กลุ่มพูลผล ต่อยอดนวัตกรรมติดปีกสินค้าเกษตรมูลค่าสูง

ต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายอาณาจักรสร้างเติบโตมาตลอด 50 ปี มีโปรดักต์เรือธง น้ำมันพืชกุ๊ก และวุ้นเส้นต้นสน  ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

เพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย “น้ำมันพืชกุ๊ก” หนึ่งในธุรกิจหลักของ “กลุ่มพูลผล” กล่าวว่า การขับเคลื่อนธุรกิจก้าวสู่ทศวรรษที่ 6 มุ่งตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรชั้นนำของอาเซียนในอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตจากพืชน้ำมัน ด้วยนวัตกรรมด้านกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ และบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้พันธกิจในการส่งเสริมการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน

"ธุรกิจครบรอบ 50 ปี เดือน ส.ค.นี้ ได้เปิดตัวแนวคิด ‘น้ำมันพืชกุ๊ก ทุกวันคือวันสุข” (Cook Your Happiness) รับเทรนด์สุขภาพซึ่งทุกคนให้ความสำคัญ แต่ความเชื่อหนึ่ง คือ อาหารที่ดีต่อสุขภาพ มักไม่ค่อยอร่อย น้ำมันพืชกุ๊ก จึงขอเป็นตัวเชื่อมของความอร่อยและสุขภาพที่ดี เพื่อให้ทุกคนมีความสุขได้ในทุกมื้ออาหาร"

 

เพชร หวั่งหลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย “น้ำมันพืชกุ๊ก” หนึ่งในธุรกิจหลักของ “กลุ่มพูลผล”

“น้ำมันพืชกุ๊ก” ซึ่งประกอบด้วย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน และน้ำมันคาโนลา มุ่งพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ความต้องการด้านสุขภาพของผู้บริโภค ควบคู่การพัฒนากระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทําให้ลดการใช้พลังงาน ลดการใช้พลาสติก และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ อย่างมีนัยสําคัญ พร้อมแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมสีเขียวให้กับคู่ค้า จัดทําโครงการคัดแยกขยะให้กับชุมชนรอบข้าง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้ขยะ เช่น รวบรวมขวด PET ใช้แล้ว มาทํา Upcycling เป็นเสื้อ จากโครงการดังกล่าวทําให้บริษัทได้รับรางวัล Green Industry ระดับ 5 จากกระทรวงอุตสาหกรรม ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันพืชรายแรกและรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ตั้งแต่ปี 2559

 

บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช นับเป็นโรงงานสกัดน้ำมันพืชและกากพืชน้ำมันใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ  นอกจากนี้ ได้ผลิตกากพืชน้ำมันเพื่อเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ที่ทําจากถั่วเหลือง เช่น เลซิทิน distillate และกรคน้ำมันถั่วเหลือง

สำหรับภาพรวมตลาดน้ำมันพืชแบบขวดมีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท มีการแข่งขันรุนแรงทางด้านราคา แต่ตลาดยังคงขยายตัวได้ดีจากแรงหนุนอุตสาหกรรมอาหารและการท่องเที่ยวที่เติบโต โดยน้ำมันพืชกุ๊ก ครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 20% เป็นอันดับ 2 ของตลาด

"ตลาดที่มีการแข่งขันสูงทำให้บริษัทฯ ต้องมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  โดยจัดสรรงบกว่า 100 ล้านบาท ลงทุนเครื่องจักรยกระดับการผลิตระบบออโตเมชั่น  แม้ว่าเราจะเป็นผู้นำลำดับต้นๆ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว  ต้องพร้อมปรับเปลี่ยนธุรกิจเสมอ”

 

เพชร ประเมินปัจจัยท้าทายในปีนี้นอกจากสถานการณ์การแข่งขันที่คงดีกรีความเข้มข้น เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก ปัจจัยต่างๆ ในตลาดมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว  ดังนั้นต้องวางกลยุทธ์ให้สอดรับเทรนด์ของตลาด และพร้อมปรับเปลี่ยนทุกอย่างให้รวดเร็วที่สุด

"ปี 2567 ผู้ประกอบการหลายรายมองว่าเศรษฐกิจอาจไม่ดีนัก แต่เราจะทำอย่างไรในภาวะที่หลายคนมองว่าไม่ดี นั่นคือ มาปรับที่ตัวเราเอง ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าให้สูงขึ้น เพิ่มศักยภาพของผลิตภัณฑ์ให้มากที่สุด ผมไม่เชื่อเรื่องเสือนอนกิน เรายังต้องแอคทีฟ ปรับปรุง ยกระดับธุรกิจอยู่เสมอ สินค้าที่เคยขายดีมากเมื่อ 10 ปี หรือ 20 ปีก่อน อาจไม่ได้ขายดีในยุคปัจจุบัน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง ต้องจับเทรนด์ให้ทันโลกเสมอ”

โดยแนวทางสำคัญ นั่นคือสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรและขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าสูงขึ้น  ที่ผ่านมาได้มีการต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมยา และแป้งมันสำปะหลังแปรรูปส่งออก ในปีนี้ขยายสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่โปรตีนไฟเบอร์ ซึ่งแปรรูปมาจากถั่วลันเตาสีทอง สามารถให้โปรตีนที่สูงกว่าเนื้อไก่ทั่วไป คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี) ของบริษัทฯ ที่มีกว่า 80 คน ทำหน้าที่ติดตามความต้องการของตลาดและเมกะเทรนด์ต่างๆ เพื่อพัฒนาโปรดักต์ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคชาวไทยและดีมานด์โลกให้ได้มากที่สุด

ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย กลุ่มคนรุ่นใหม่ ไปจนถึงกลุ่มผู้สูงสูงอายุ ที่ต้องการโปรตีน ถือเป็นบริษัทแรกในไทยที่ได้คิดค้นโปรตีนจากถั่วลันเตาสีทอง รับเทรนด์ผลิตภัณฑ์จากโปรตีนมีแนวโน้มขยายตัวสูง!

จะเห็นว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดใหม่ และฐานลูกค้าใหม่ๆ โดยกลุ่มพูลผล ได้ร่วมงานมหกรรมอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำแห่งภูมิเอเชีย  THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 คอนเซปต์ Beyond Food Experience เมื่อ 28 พ.ค.-1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้ระดมนวัตกรรมสินค้า กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งแนวคิด “น้ำมันพืชกุ๊ก ทุกวันคือวันสุข” นำเสนอลูกค้า คู่ค้าทั้งไทยและต่างประเทศ

สำหรับแผนขยายตลาดต่างประเทศมุ่งเพิ่มการส่งออกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพและมีการขยายตัวสูง ทั้ง ประเทศลาว สิงคโปร์ กัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และเกาหลีใต้ จากความได้เปรียบภูมิศาสตร์ของไทยศูนย์กลางแห่งภูมิภาค มีต้นทุนการขนส่งต่ำกว่าภูมิภาคอื่นๆ  

เกมรุกของกลุ่มพูลผลทั้งเร่งขยายตลาด ยกระดับธุรกิจ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ จะนำพาองค์กรเติบโตรับกับทุกช่วงเวลาและสถานการณ์ต่างๆ โดยไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโต 5% ภาพรวมกลุ่มพูลผลปีนี้จะสร้างการเติบโตที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้มากกว่า 40,000 ล้านบาท

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...