ญี่ปุ่นแชมป์เจ้าหนี้โลก! 'เยนอ่อนค่า'ดันสินทรัพย์ต่างประเทศพุ่งทำนิวไฮ
วันที่ส่ง: 28/05/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
สำนักข่าวรอยเตอร์รานยงานว่ากระทรวงการคลังเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (28 พ.ค.) ถึงจำนวนสินทรัพย์สุทธิต่างประเทศของญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่ที่ระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 100 ล้านล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน เนื่องจากค่าเงินเยนอ่อนค่าและการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศของบริษัทญี่ปุ่นทำให้มูลค่าสินทรัพย์ต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและการลงทุนในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้ญี่ปุ่นมีมูลค่าสินทรัพย์ต่างประเทศสุทธิที่ถือครองโดยรัฐบาลญี่ปุ่น ธุรกิจญี่ปุ่น และชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 51 ล้านล้านเยนในปีที่ผ่านมา
ขณะนี้ สินทรัพย์ต่างประเทศรวมอยู่ที่ 1,488 ล้านล้านเยนและมีหนี้สินต่างประเทศอยู่ที่ 1,017 ล้านล้านเยน
ดังนั้น ญี่ปุ่นจึงยังคงเป็นประเทศเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของโลก ตามด้วยเยอรมนีที่มีสินทรัพย์สุทธิต่างประเทศ 454.8 ล้านล้านเยน และจีนที่ 412.7 ล้านล้านเยน ณ สิ้นปี 2566 ตามที่กระทรวงการคลังระบุ
รวมทั้ง กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เปิดเผยข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดฉบับปรับปรุง โดยสำหรับตลอดทั้งปี 2566 ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ 21.4 ล้านล้านเยน เทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่การเกินดุล 20.6 ล้านล้านเยน
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief
รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...
‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’
นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...
เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า
“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...
“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...
ยอดวิว