'เศรษฐา' ทำจีดีพีโต 5% ไม่ได้ หากไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศนโยบายการทำงานของรัฐบาลจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างแข็งขัน โดยแสดงความมั่นใจที่จะเป็นรัฐบาลได้ครบ 4 ปี พร้อมทั้งประกาศที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5% ตลอดการทำหน้าที่รัฐบาล ซึ่งนายเศรษฐา มองสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่เข้ามาเป็นรัฐบาล ประเทศไทยเปรียบเสมือนคนป่วยที่ได้รับผลกระทบ มากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในช่วงโควิด-19 ส่งผลให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมีปัญหาทั้งการท่องเที่ยวและการใช้จ่าย

นโยบายที่นายเศรษฐา แถลงต่อรัฐสภามองว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นที่มาของความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการใช้จ่าย เพิ่มความเชื่อมั่นเพื่อดึงดูดการลงทุน และฟื้นฟูเครื่องยนต์เศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งนำมาสู่ความพยายามในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการแจกเงินดิจิทัลให้คนไทยอายุ 16 ปี ขึ้นไป ทุกคนรวม 50 ล้านคน เพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ภาคธุรกิจขยายการลงทุน ผลิตสินค้ามากขึ้น นำไปสู่การจ้างงาน และรัฐบาลเก็บภาษีได้มากขึ้น

รัฐบาลยังเร่งขับเคลื่อนการลงทุนจากต่างประเทศ โดยนายเศรษฐาประกาศเป็นเซลส์แมน เดินทางไปต่างประเทศและเจรจากับบริษัทข้ามชาติ ถึงแม้ว่ายังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรมแต่รัฐบาลยืนยันว่าบริษัทต่างชาติยืนยันถึงความตั้งใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ถึงแม้ว่าบริษัทไมโครซอฟท์ ที่ซีอีโอเดินทางมาเยือนไทยมาเลเซียและอินโดนีเซีย แต่ประกาศเม็ดเงินการลงทุนเฉพาะในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งรัฐบาลออกมาชี้แจงว่าอยู่ขั้นตอนเจรจาระยะที่ 1 โดยในช่วง 8 เดือน ของรัฐบาลทำได้ขนาดนี้ถือว่าประสบความสำเร็จขั้นสูง

การที่รัฐบาลประกาศเป้าหมายเศรษฐกิจขยายตัวปีละ 5% ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก ซึ่งหากรัฐบาลจะอ้างว่าปีแรกไม่ได้ตามเป้าหมาย 5% ปีถัดไปยังมีโอกาสและทำให้อัตราเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 5% ตามนโยบายรัฐบาลได้ แต่คงทำให้สังคมเชื่อได้ยากว่าสิ่งที่นายเศรษฐาประกาศเป้าหมายไว้จะทำได้จริง หากรัฐบาลมัวแต่จะแจกเงินดิจิทัลหรือเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ทั่วประเทศ ซึ่งกำลังถูกภาคเอกชนกล่าวหาว่าการเมืองแทรกแซงคณะกรรมการค่าจ้างกลาง

นายเศรษฐาไม่มีทางที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเฉลี่ยปีละ 5% ได้หากไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ โดยภาคการผลิตของประเทศไทยติดลบต่อเนื่อง 3 ไตรมาส สะท้อนถึงภาคอุตสาหกรรมที่ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ในขณะที่มูลค่าการส่งออกของไทยในช่วง 4 เดือนแรก ต่ำกว่าหลายประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนาม มาเลเซีย ซึ่งถึงเวลาแล้วที่นายเศรษฐา ควรให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...