‘ศรีจันทร์’ พับแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์ มองตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม

“ศรีจันทร์” (Srichand) คือหนึ่งในองค์กรที่ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นรีแบรนด์ จนสามารถเปลี่ยนภาพจำแป้งหอมคุณยายให้กลายเป็นบิวตี้แบรนด์ของคนทุกเพศ ทุกวัยได้สำเร็จ โดยปีที่ผ่านมา “รวิศ หาญอุตสาหะ” ระบุว่า บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด มีรายได้รวม 1,030 ล้านบาท เติบโตจากปี 2566 กว่า 42% ที่มีรายได้อยู่ที่ 735 ล้านบาท จากปัจจัยหลักๆ สองส่วน คือสภาพตลาดความสวยความงามที่แข็งแกร่งมากขึ้น รวมถึงการออกโปรดักต์ใหม่ๆ ที่ “รวิศ” บอกว่า แบรนด์ศรีจันทร์วางแผนออกโปรดักต์ใหม่ด้วยความถี่ทุกๆ 2 เดือน

สำหรับพอร์ต โฟลิโอ ของ “ศรีจันทร์” ตอนนี้ กลุ่มสกินแคร์ยังครองส่วนแบ่งมากที่สุด ตามมาด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดดที่ศรีจันทร์หันมาทำตลาดจริงจังได้ 3 ถึง 4 ปีแล้ว เพราะมองว่า ยังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก “รวิศ” เปิดเผยว่า กลุ่มกันแดดเติบโตกว่า 200% ติดต่อกัน 2 ปีแล้ว ปี 2567 ก็ตั้งเป้าเติบโตอีก 200% เช่นกัน

จากแนวโน้มการเติบโตที่ดูจะไปได้สวย ทำให้เรานึกถึงบทสัมภาษณ์ของ “รวิศ” ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ตนมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในปี 2568 เพื่อระดมทุนขยายธุรกิจ และสร้างโรงงานผลิตสินค้าเพิ่มเติม โดยรวิศตั้งเป้าไว้ว่า บริษัทต้องมีรายได้แตะ 1,500 ล้านบาท จึงจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

“กรุงเทพธุรกิจ” ได้สอบถามเรื่องนี้ไปยังเจ้าตัวว่า ยังคิดเรื่องแผนนำบริษัท IPO ตามเดิมหรือไม่ “รวิศ” เปิดเผยว่า แผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า มองว่า ช่วงนี้ตลาดยังไม่ค่อยดีนัก มีการเตรียมตัวจัดระบบภายในให้พร้อม แต่มองว่า ยังไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์

ส่วนกลยุทธ์ของ “ศรีจันทร์” หลังจากนี้ “รวิศ” มองว่า เนื่องจากตลาดความสวยความงามมีความซับซ้อน มีจำนวนผู้เล่นเยอะมาก รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายที่หลากหลาย ทั้งหน้าร้าน ออนไลน์ ตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ “ศรีจันทร์” ต้องลองให้เยอะ ลองให้เร็ว และใช้เงินให้น้อยที่สุด มองว่า หัวใจการทำการตลาดตอนนี้ คือทำให้เกิดการทดลอง เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนเร็วมาก แม้จะมีดาต้าในมือแต่ก็ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของการทำตลาด เชื่อว่า ต้องลงมือทำ เพราะดาต้าไม่ใช่การซื้ออนาคต

ด้านแผนบุกต่างประเทศหลังจากนี้ ผู้บริหารศรีจันทร์บอกว่า พอร์ตต่างประเทศยังเล็กมากๆ ไม่ถึง 5% มองว่า ตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องศึกษาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนประเทศที่มีศักยภาพ คือญี่ปุ่นและลาว เพราะมีสภาพอากาศในช่วงหน้าร้อนใกล้เคียงกัน

โปรดักต์ที่ “ญี่ปุ่น” ให้ความสนใจ คือกลุ่มกันแดด ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในกระบวนการพูดคุยกับหลายๆ ประเทศ แต่ไม่ได้เป็นโฟกัสหลัก ตอนนี้อยากทำตลาดในประเทศให้แข็งแรงมากๆ ก่อน หากมีโอกาสไปได้ก็เป็นเรื่องน่ายินดีแต่ยังไม่รีบร้อน

สำหรับเป้าหมายปี 2567 “รวิศ” คาดว่า ปีนี้ภาพรวมศรีจันทร์จะโตขึ้นอีก 30% จากการขยายตลาด การออกโปรดักต์ใหม่ และสภาพตลาดโดยรวม ส่วนแผนปั้นธุรกิจขา “Wellness” อาจได้เริ่มเห็นออกมาเป็นรูปร่างหน้าตาที่ชัดเจนขึ้นภายในปีหน้า ขณะนี้ยังไม่มีอัปเดตว่า จะเป็นโปรดักต์รูปแบบใด ที่สำคัญที่สุด คือคอนเซปต์ต้องชัด รู้ว่ากำลังจะขายใคร ไม่ได้เคร่งครัดว่า ต้องบุกตลาดเป็นคนแรกๆ เชื่อว่า ตลาดความงามไม่ได้มีความเคลื่อนไหวเร็วเหมือนตลาดเทคโนโลยี ขอให้สินค้าที่ออกมาตรงใจกลุ่มผู้บริโภคก็พอ

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...