เซ็นทรัลรีเทล โหมค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ‘ไทวัสดุ’ คาด 5 ปียอดขาย 7 หมื่นล้าน

ไทวัสดุ ค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ของกลุ่มเซ็นทรัลรีเทล ที่เริ่มต้นสาขาแรกในช่วง 2553 ทำเล “บางบัวทอง” โดยในปัจจุบันสามารถขยายสาขาได้ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมมุ่งสู่ผู้นำในตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของประเทศไทย

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า แผนขยายธุรกิจของ ไทวัสดุในช่วง 5 ปี ระหว่างปี 2567-2571 ได้วางเป้าหมายตอกย้ำการเป็นผู้นำค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านในประเทศไทย ทั้งการขยายสาขาใหม่ในทุกปี และรุกออนไลน์ควบคู่กัน ทำให้ประเมินว่า จะสร้างยอดขายแตะระดับ 7 หมื่นล้าบาท หรือจะสร้างการเติบโต 12% ในทุกปี

 

สำหรับแผนกลยุทธ์สร้างการเติบโต วางไว้ 3 ด้านหลักได้แก่ การเปิดโมเดลไฮบริด ที่รวมไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮม กลายเป็นศูนย์รวมสินค้าวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์งานช่าง เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าเพื่อบ้าน ของตกแต่ง และซ่อมแซมบ้าน ซึ่งมีขนาดพื้นที่กว่า 2 หมื่น ตร.ม. มีสินค้ากว่า 5 หมื่นรายการ เจาะฐานกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม ทั้งผู้รับเหมา ช่าง และเจ้าของบ้าน 

ทั้งนี้ประเมินว่าในสิ้นปีนี้ สาขาไฮบริด รวมทั้งหมด 16 สาขาได้แก่ ศรีสมาน, บางแสน, รังสิต คลอง4, ภูเก็ต ฉลอง, เมืองเอก, สมุทรปราการ, เชียงใหม่ สันทราย, บางใหญ่ ,นครอินทร์, อุดรธานี กุดสระ, พระราม 3 , บางนา, บางบัวทอง, สุขาภิบาล 3, ภูเก็ต และขอนแก่น ที่ผ่านมา สาขาไฮบริด ช่วยเพิ่มยอดขาย 30%

 

อีกทั้งได้มุ่งยกระดับการชอปปิ้งออนไลน์ ผ่านการลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ  ทั้งในเว็บไซด์และแอปพลิเคชัน ที่มีระบบทั้ง  Daily Steel Price Ordering Online รายแรกในประเทศ ที่อัพเดตราคาเหล็กออนไลน์รายวัน  Feature Mixed Paint & Calculator เปิดให้ลูกค้าและผู้รับเหมาสามารถเลือกซื้อสีผสมทาอาคารกว่า 20,000 เฉดสีได้ตามแบบที่ต้องการ และ Tailor Made Curtains Calculator  โปรแกรมสำเร็จรูป ออกแบบมาช่วยให้การคำนวนผ่าม่านสั่งตัดได้สะดวกที่สุด

ทั้งนี้ จากการเสริมความแข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายในช่องทางออนไลน์มากกว่า 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2571 

 

ลงทุนรถ EV Truck เพิ่ม 80 คัน 

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าขยายชัพพลายเชนและการขนส่งด้วยระบบกรีนโลจิสติกส์ (Green Logistics) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเปิดตัวการใช้รถบรรทุกพ่วงแม่ลูกพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) เข้ามาใช้ในการขนส่งสินค้า เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยวางแผนในปีนี้ จะเพิ่มจำนวนรวม 80 คัน คิดเป็น 32% จากรถขนส่งทุกประเภททั้งหมด ขนส่งสินค้าได้มากกว่า 700,000 พาเลท ช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ถึง 7,000 ตัน 

"หากประเมินต้นทุนราคารถพ่วง EV Truck ถือว่าสูงกว่ารถบรรทุกดีเซล แต่เมื่อพิจารณาในระยะยาว ช่วยลดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง และการดูแลเครื่องยนต์ลดลงได้ถึง 16% ต่อปี"

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมธุรกิจในปี 2566 สร้างยอดขายถึงระดับ 40,000 ล้านบาท ซึ่งจากการดำเนินธุรกิจตลอด 14 ปีที่ผ่านมา ภายใต้งบลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท มีเติบโตประมาณ 11% ต่อปี รวมถึงมีการขยายสาขาไทวัสดุ และบีเอ็นบี โฮมทุกฟอร์แมตถึง 14 สาขา ในปีเดียว ซึ่งในภาพรวมมีจำนวนสาขาถึง 90 แห่ง ครอบคลุม 47 จังหวัดทุกภูมิภาค

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...