ล่า! จับแก๊งหลอกเทรดสกุลเงินดิจิทัล พบเหยื่อหลายร้อยราย

ขบวนการหลอกลงทุน แก๊งหลอกเทรดสกุลเงินดิจิทัล พบเหยื่อหลายร้อยราย

ล่าสุด จับกุมขบวนการหลอกลงทุน แก๊งหลอกเทรดสกุลเงินดิจิทัล สืบเนื่องจากตำรวจไซเบอร์ได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มผู้เสียหายหลายร้อยรายถูกหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัลผ่านระบบแอปพลิเคชัน "bitpie" โดยมิจฉาชีพใช้วิธีการรับโอนเงินเพื่อฝากเทรดผ่านช่องทางกลุ่มไลน์โอเพนแชทชื่อ "Carpo Trade"

ขบวนการหลอกลงทุน

โดยมิจฉาชีพเรียกตัวเองว่า "โค้ช" แบ่งหน้าที่กันรับผิดชอบเทรดให้แก่สมาชิก

  • โค้ชแต่ละคนจะใช้วิธีการจัดโปรโมชันและแจกส่วนลดการลงทุน
  • หลอกล่อสมาชิกให้เกิดความโลภอยากลงทุนเพิ่ม
  • บรรดาหน้าม้าในกลุ่มไลน์โอเพนแชทคอยโชว์ยอดเงินทัล เพื่อทำให้เหยื่อเชื่อว่าหากลงทุนเพิ่มแล้วทำให้ได้กำไรมากขึ้น

เมื่อเหยื่อลงทุนได้สักระยะหลัง ก็เกิดการขาดทุนกระทันหัน หรือเรียกว่า "พอร์ตแตก"

  1. สมาชิกกลุ่ม Silver ระดับทุน 10,000 - 80,000 บาท ทุกคน จะโดนเทรดติดลบและยอดเงินหายไป 80% จากยอดเงินในพอร์ต
  2. กลุ่ม Gold ระดับเงินทุน 100,000 บาทขึ้นไป สมาชิกทุกคนจะโดนเทรดติดลบ 50% จากยอดเงินในพอร์ต 

โค้ชอ้างว่าเป็นการผิดพลาดของระบบและการตัดสินใจเข้าเทรด จากนั้นโค้ชก็ชักชวนให้สมาชิกโอนเงินเพิ่มเข้าไปเพื่อเทรดให้ทุนที่หายไปกลับมา

สมาชิกหลายคนจึงหลงเชื่อ และโอนเงินทบเข้าไป ส่วนสมาชิกบางส่วนที่ไม่ได้ทบเงิน และมีเงินเหลือบ้างในพอร์ต หากไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านก็จะถูกเทรดจนหมดเงินในวันต่อมา

หลังจากนั้นต่อมาระบบดังกล่าวและกลุ่มไลน์โอเพนแชทก็ได้ปิดตัวลงเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2565 กลุ่มผู้เสียหายหลายร้อยรายจึงเข้าแจ้งความ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000,000 บาท

พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิตติพนธ์ ผลพฤกษา ผบก.สอท.4 กวาดล้างจับกุมขบวนการดังกล่าว โดย พ.ต.อ.คมสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด เข้าจับกุมผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1650/2567 ลงวันที่ 19 เมษายน 2567 ได้จำนวน 4 ราย

แก๊งหลอกเทรดสกุลเงินดิจิทัล

1. นาย รัตนพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พักอาศัยที่ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

2. นาย วรกานต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี พักอาศัยที่ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

3. นาย นครินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พักอาศัยที่ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร

4. นางสาว วรณัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี พักอาศัยที่ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

ในความผิดฐาน

  • ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,
  • ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน

ตำรวจชุดสืบสวนของ กก.4 บก.สอท.4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการจำนวน 11 ราย โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาจำนวน 9 ราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเพิ่มเติมได้ จำนวน 4 ราย ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 ราย อยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...