หุ้นไทยยังมีเสน่ห์ในวันที่ดัชนีน่าผิดหวัง แนะกลยุทธ์รอช้อนเล่นรายตัว

"เม็ดเงินลงทุนรู้แล้วว่าประเทศไทยก็เป็นแบบนี้ ฉะนั้นตัวเลือกการลงทุนในตลาดหุ้นประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินเดีย หรือแม้กระทั่งจีน ก็ยังมีมุมที่น่าสนใจกว่าประเทศไทย" นายกวี ชูกิจเกษม ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ และคอนเทนต์ บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นบทสนทนา

วันที่ 3 พ.ค. 67 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,369.92 จุด แม้จะขยับบวกได้ 0.49% จากวันทำการก่อนหน้าด้วยแรงพยุงของหุ้นขนาดใหญ่ แต่เมื่อย้อนมองภาพตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ยอด 1,718.55 จุด ขาลงดัชนีหุ้นฉายภาพชัด ซึมตัวลงเรื่อยๆ พร้อมการซื้อขายที่เบาบาง โดยมีนักลงทุนต่างชาติทำสถานะขายสุทธิเนืองๆ

นักวิเคราะห์ผู้อยู่ในวงการมาเกือบ 30 ปี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า "ตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในภาวะแกว่งตัวต่อไป ไม่ไปไหน สิบปีที่ผ่านมายอดการขายจากนักลงทุนต่างชาติรวมแล้วมากกว่า 8 แสนล้านบาทเกือบจะถึงล้านล้านบาทอยู่แล้ว ชัดเจนแล้วว่าเงินลงทุนไม่เลือกประเทศไทย เงินลงทุนที่เข้ามาใหม่อยู่ไม่นานก็ออกไป ซ้ำๆ อย่างนี้ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็คือเขาจะไม่เงินที่จะถล่มขายมากๆ อีกแล้ว"

อย่างไรก็ดี ประเมินหุ้นไทยเดือนนี้ยังจะเกิดปรากฏการณ์ Sell in May (การเทขายหุ้นออกที่มักเกิดช่วงเดือน พ.ค.) สอดคล้องกับภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังมีความเสี่ยงอีกหลายเดือนนับจากนี้

"คำว่า Sell in May นี้น่าจะเป็นเพียงข้ออ้างหาเหตุในการขายหุ้นเท่านั้น ที่ผ่านๆ มาช่วงเดือน พ.ค. กระทั่งไปจนถึงเดือน ต.ค. ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งปีนี้ประเทศสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีช่วงปลายปี คนยิ่งไม่กล้าเสี่ยงนำเงินไปลงทุน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ยังอยู่ระดับสูงมาก (5.25-5.50%) แรงจูงใจที่จะย้ายเงินออกมาลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจ แล้วผลกระทบจากดอกเบี้ยที่สูงนี้ก็ยังถือเป็นความเสี่ยงต่อเนื่องไปยังภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันอีกด้วย" นายกวี ชูกิจเกษม กล่าว

พร้อมระบุ ตราสารหนี้ถือเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจภายใต้คาดการณ์ว่า ในที่สุดอัตราดอกเบี้ยจะต้องปรับลดลง เพียงแค่ไม่มีความแน่นอนว่าจะปรับลงช่วงไหนของปีนี้ซึ่งยังเหลือรอบพิจารณาอีก 4 ครั้งได้แก่ในเดือน มิ.ย., ก.ค., ก.ย. และ พ.ย.

สำหรับหุ้นต่างประเทศที่น่าจับตามองคือ จีน ซึ่งด้วยพื้นฐานแล้วเศรษฐกิจจีนสามารถโตได้ด้วยโครงสร้างที่เป็นอยู่อยู่แล้ว ที่ผ่านมามีภาวะโรคระบาดโควิด-19 และต่อมาก็เผชิญกับปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ตัวเลขจีดีพีก็ขยายตัวได้โดยมีหลายภาคส่วนกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจประคับประคองไว้เช่นภาคโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต ภาคยานยนต์ไฟฟ้า ภาคพลังงานสะอาด และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ก็ยังมีอยู่

"หุ้นจีนถูกมาก แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ถ้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีนแล้วราคาหุ้นจะขึ้นได้ไหม และปรับขึ้นไปได้เท่าไหร่ ปัจจัยที่จะทำให้ตอบคำถามเหล่านี้ได้ขึ้นอยู่กับแผนดำเนินยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีนายสี จิ้นผิง เป็นผู้นำในตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งสามารถเลือกกำหนดความเข้มงวดหรือผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ที่จะกระตุ้นตลาดทุนได้ในระดับที่อาจทำให้ราคาหุ้นจีนทะยานเป็นเท่าตัวได้เลย" มุมมองจาก นายกวี ชูกิจเกษม

ด้านสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนก็น่าจะยังคงอยู่ต่อไปโดยวิเคราะห์ว่า ผลกระทบจากความขัดแย้งอันยืดเยื้อจะยังไม่รุนแรงถึงขั้นกดดันเศรษฐกิจทั้งโลกได้ ไม่ว่าปลายปีนี้ใครจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ของสหรัฐก็ตาม

อีกทั้งวิเคราะห์เชิงมหภาคว่า "วันนี้อาเซียนมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจโลกมากขึ้นซึ่งจีนก็ตระหนักในประเด็นนี้ และย่อมก่อให้เกิดการสานความสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน ไม่เพียงแต่บริษัทขนาดใหญ่เช่น ไมโครซอฟท์ ตระเวนประกาศพร้อมเข้าลงทุนมหาศาลกับหลายประเทศในอาเซียน ทาง แอปเปิล ก็เคยเดินสายเยี่ยมเยือนประเทศในภูมิภาคนี้รวมถึงไปที่จีนด้วย"

ด้านโอกาสของประเทศไทย เชื่อว่า อนาคตจะได้เห็นการเข้ามาลงทุนจากบริษัทระดับโลก ในส่วนของระบบจัดเก็บในรูปแบบคลาวด์ ซึ่งนอกจาก ไมโครซอฟท์ แล้ว คาดจะมีบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลกอื่นๆ สนใจเข้ามาพิจารณาเลือกลงทุนอีก เนื่องจากประเทศไทยได้เปรียบเชิงภาพลักษณ์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดอย่างชัดเจน ขณะที่หลายประเทศในภูมิภาคมีท่าทีต่างออกไปบริษัทที่ต้องการปิดกันความลับทางธุรกิจจากการสอดแนมโดยฝั่งสหรัฐจึงยังแคลงใจ หรือกระทั่งในทางกลับกันบริษัทที่ต้องการปิดกันความลับทางธุรกิจจากจีนก็ยังมองประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่น่าไว้ใจได้

อีกทั้งประเทศไทยมีภูมิศาสตร์-สภาพอากาศเหมาะสมสอดรับการวางโครงสร้างด้านพลังงานสนับสนุนระบบดาต้าไอทีที่จำเป็นต้องเสถียรที่สุด โดยเฉพาะเงื่อนไขการเข้ามาลงทุนระบบจัดเก็บในรูปแบบคลาวด์ของบริษัทระดับโลกกำหนดให้ต้องใช้พลังงานสีเขียว (พลังงานสะอาด) เท่านั้น และมีนโยบายเน้นใช้ไฟฟ้าจากแหล่งผลิตพลังงานของตนเอง ประจวบกับมีแสงแดดที่ให้ค่าพลังงานเข้มทุกฤดูกาล มีพื้นจำนวนมากเพียงพอ อุณหภูมิไม่ผันผวนจัด กฎหมายและนโยบายประเทศเอื้ออำนวย และมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมแบตเตอรี่กักเก็บพลังงานที่ได้มาตรฐานรองรับ

"ถึงแม้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะเป็นนี้ แต่หากมองเป็นรายหรือตัวรายกลุ่ม หุ้นไทยที่เกี่ยวข้องได้ประโยชน์กับสถานการณ์นี้ก็ยังมีอยู่ และน่าจะให้ผลตอบแทนโดดเด่นกว่าตลาดได้ เสน่ห์มันยังมีอยู่ โอกาสก็คือถ้าจู่ๆ หุ้นพื้นฐานดีตัวไหนราคาปรับลงมาแรงๆ นั่นแหละเป็นจังหวะซื้อเพื่อรอทำกำไร" นายกวี ชูกิจเกษม กล่าวทิ้งท้ายแนะนำกลยุทธ์การลงทุน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...