หุ้นเอเชียพุ่ง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน บวก 2% หลัง PMI สหรัฐต่ำคาด หนุนหุ้นไทยลุ้นแตะ 1,367 จุด
วันที่ส่ง: 24/04/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปัจจัยภายนอกดี หนุนหุ้นไทยลุ้นทะลุ 1367 จุด หลังจากที่ตัวเลข PMI สหรัฐ ประจำเดือนเม.ย.67 ทั้งส่วนของ PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ 49.9 จุด ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 52.0 จุด และ PMI ภาคการบริการอยู่ที่ 50.9 จุด ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 52.0 จุด
ซึ่งการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ออกมาต่ำคาดส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังให้ธนาคารกลางอย่าง FED ดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น หรือ DOVISH ซึ่งกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี วานนี้ -0.18% อยู่ที่ระดับ 4.60% ขณะที่ฝั่งสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นสหรัฐ ก็ปรับตัวขึ้นราว 0.7% - 1.6% โดยเฉพาะหุ้น TECH ปรับขึ้นแรงกว่าหุ้น VALUE จากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอคาดหวังเงินเฟ้อชะลอตัว และทำให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงในอนาคต
ขณะที่วันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.2567) จะมีการประกาศตัวเลข GDP 1Q67 ของสหรัฐที่ BLOOMBERG คาดว่าอยู่ที่ +2.5%QOQ ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ +3.4%QOQ ซึ่งหากผลลัพธ์ออกมาตามคาด ยิ่งตอกย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอลง และต้องได้รับแรงกระตุ้นผ่านการดำเนินนโยบายของ FED มากขึ้น ยิ่งเป็นแรงเสริมให้นักลงทุนสนใจสินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นเอเชีย เช้านี้ที่ปรับขึ้นแรง อาทิ เกาหลีใต้ +1.8% ญี่ปุ่น +2.0% ไต้หวัน +1.8% โดยวันนี้คาดดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นได้ และมีแนวต้านรายวันที่ระดับ 1367 จุด
กลยุทธ์การลงทุน แบ่งเป็น 3 ธีมหลัก ดังนี้
• หุ้น TECHNOLOGY ในไทย DELTA, KCE, HANA
• หุ้นได้ประโยชน์บาทแข็ง GULF, BGRIM, GPSC
• หุ้นรับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง MTC, SAWAD, TIDLOR, JMT
ขณะที่ ภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ชะลอความร้อนแรง ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณหนุนให้ FED มีโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นในปีนี้ ขณะที่วันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.67) รอติดตามการรายงานตัวเลข GDP สหรัฐ 1Q67 โดย CONSENSUS คาดว่าการเติบโตอาจเหลือแค่ 2.5%QOQ ลดลงจากงวดที่แล้วที่โต 3.4% ส่วน FED WATCHTOOL เริ่มขยับ คาดปีนี้ FED จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง เดิมคาด 1 ครั้ง หลังดัชนี PMIสหรัฐ อ่อนแอต่อเนื่อง
ส่วนปัจจัยภายใน ก็ยังช่วยผลักให้ SET ทยอยฟื้นได้ ล่าสุดฝ่ายวิจัยฯ ทำการรวบรวมข้อมูล EARNING PREVIEW งวด 1Q67 จาก BLOOMBERG CONSENSUS 101 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน 60% ของ MARKETCAP.) มีกำไรสุทธิรวม 1.69 แสนล้านบาท เติบโต +51.7%QOQ และ +3.0%YOY
อีกทั้งยังเห็นการรายงานกำไร 1Q67 กลุ่ม REAL SECTOR ที่ทยอยออกมา ส่วนใหญ่จะสูงกว่าที่ตลาดคาด อาทิ AEONTS สูงกว่าตลาดคาด 46%, SCGD 14%, SCGP 17% เป็นต้น
ขณะเดียวกันช่วงที่ SET INDEX ย่อลงมาลึกๆ ก็เห็นบริษัทจดทะเบียนทยอยซื้อหุ้นคืนในสัดส่วนแต่ละเดือนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยปีนี้บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืนรวมกันสูงถึง 5.40 พันล้านบาท (YTD) และเดือนเม.ย. นี้ บริษัทจดทะเบียนซื้อหุ้นคืนสะสมไปแล้ว 1,08 พันล้านบาท (MTD)
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief
รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...
‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’
นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...
เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า
“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...
“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...
ยอดวิว