หุ้นไทยดิ่งหนัก 31 จุด กังวลสงครามตะวันออกกลาง หวั่นเฟดปีนี้ไม่ลดดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 17 เมษายน 2567 เวลา 11.23 น.อยู่ที่ 1,365 จุด ดิ่งลง 31.14 จุด หรือ -2.23% หลังจากที่ตลาดกังวลสงครามตะวันออกลาง รวมถึงเฟดคาดว่าปีนี้อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเหลือเพียงแค่ครั้งเดียวหรืออาจจะไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยลงเลย ขณะที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น และหุ้นกลุ่มแบงก์มีการประกาศขึ้น XD ในวันนี้

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงมาแรงหลังจากที่ตลาดมีความกังวลต่อสถานการณ์สงครามตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอล และอิหร่าน รวมถึงเฟดเองออกมาบอกว่าอาจจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรืออาจจะมีการปรับดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คิด หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา และหุ้นกลุ่มแบงก์มีการประกาศขึ้น XD

ทั้งนี้หุ้นไทยที่ปรับตัวลงมาแรงในวันนี้ ถือว่ายังไม่ต่ำสุด เพราะช่วงปีที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยเคยต่ำสุดอยู่ที่ 1,360 จุด และคาดว่าในวันนี้ ไม่น่าจะหลุด 1,360 จุด ส่วนดัชนีหุ้นไทยเมื่อเทียบกับภูมิภาคเอเชียถือว่า ปรับตัวร่วงลงมาไม่ต่ำสุดแต่ถือว่าต่ำเกือบที่ของตลาดหุ้นภูมิภาค
 

"วันนี้เปิดตลาดหุ้นมาปรับตัวลดลงมาเกือบทั้งตลาด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ และอสังหาฯ ที่เสียประโยชน์จากดอกเบี้ย หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับตัวลงมาช้ากว่าที่คาดการณ์ ซึ่งกลุ่มอสังหาฯ ก่อนหน้ามีการเก็งกำไรขึ้นมาจากมาตรการกระตุ้น และพอ ธปท. ไม่ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ในการประชุม กนง.ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเฟดออกมาพูดว่า ในปีนี้อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยแค่ครั้งเดียว  ซึ่งก่อนหน้าช่วงต้นปีได้ออกมาบอกว่าในปีนี้จะลดดอกเบี้ยถึง 6 ครั้ง และในช่วงเดือน 2 - 3 ปรับลดลงมาว่า อาจจะลดดอกเบี้ยเหลือ 1-2 ครั้งในปีนี้ หรืออาจจะไม่มีการปรับลดลงเลยก็ได้" 

แนะนำ นักลงทุนว่า หากนักลงทุนจะเข้าไปลงทุน ควร Selective Buy หากในกลุ่มแบงก์ เป็นหุ้น KKP ส่วนหุ้นค้าปลีก CRC ส่วนอสังหาฯ กับหุ้นไฟแนนซ์ยังไม่แนะนำลงทุนหากดอกเบี้ยไม่ลงหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังคงจะเสียผลประโยชน์ แต่ถ้านักลงทุนจะเข้าไปลงทุนในหุ้นอสังหาฯ แนะนำหุ้น LH

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ