พลัสเอ๊กซโพลเรชั่น’ จับมือ พาร์ตเนอร์จีน ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ตั้งโรงงานในไทย

​บริษัท พลัสเอ๊กซโพลเรชั่น จำกัด ผู้นำในการให้บริการในธุรกิจ Oil & Gas รวมถึงปิโตรเคมี และโรงผลิตไฟฟ้าในไทยมานานกว่า 15 ปี โดยบริษัทจำหน่ายสารเคมีประเภทสารเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) และอุปกรณ์ที่ใช้ในโรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมี นำโดย นายสิทธิชัย ตลับนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นางสาวณัฐกฤตา กุลสิริธนกร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการสื่อสาร, นายเอกพงศ์ เอกลาภ ผู้จัดการฝ่ายบริหารงานโครงการ และนางสาวศศิวิมล ปราสาททอง ผู้จัดการฝ่ายรีไซเคิล และจัดการของเสียอันตราย ได้ร่วมในพิธีลงนามในสัญญาร่วมทุนกับ Mr. Shen Xian Hua, General Manager of Hualong Limited, Mr. Su Yang, Director of Symo Development Limited และ MR. Shen Hanyu, Director of H.Y.Resources Technology (HK) Limited เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อก่อตั้งโรงงานผลิตเคมีโลหะจากสารเร่งปฏิกิริยาที่ใช้แล้ว (Spent Catalyst) แห่งแรกในไทยร่วมกัน

นายสิทธิชัย ตลับนาค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลัสเอ๊กซโพลเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่าได้ตัดสินใจร่วมลงทุนครั้งสำคัญกับนักธุรกิจสัญชาติจีนที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกันมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ 3 บริษัท ได้แก่ Hualong Limited, Symo Development Limited และ
H.Y.Resources Technology (HK) Limited โดยทุกฝ่ายได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) เพื่อจัดตั้งโรงงานผลิตเคมีโลหะจากสารเร่งปฏิกิริยาที่เสื่อมสภาพ และไม่ใช้แล้วจากอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมี ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย ด้วยงบลงทุนร่วมกันกว่า 1,000 ล้านบาท


“พาร์ตเนอร์ทั้ง 3 บริษัทนี้ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสกัดโลหะมีค่าจากสารเร่งปฏิกิริยาทั้งในจีน และเวียดนาม ในขณะที่ พลัสเอ๊กซโพลเรชั่น เองก็มีวัตถุดิบ และฐานลูกค้าในไทยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เราเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะสามารถเติบโตร่วมกันได้ จึงได้ลงทุนจัดตั้งโรงงานดังกล่าวขึ้นในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมหลักอื่นๆ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ

โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จากโรงงานนี้สามารถใช้เป็นวัตถุดิบขั้นพื้นฐานสำหรับอุตสาหกรรมผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในรถยนต์ (EV CAR) อุตสาหกรรมผลิตเหล็ก สแตนเลส และเคมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งโดยรวมจะช่วยลดการนำเข้า และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกได้อีกด้วย”



นายสิทธิชัย กล่าวต่อว่า โรงงานแห่งนี้จะให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรธรรมชาติในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของเสีย วัตถุดิบ สินค้าที่หมดอายุ และพลังงาน ให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้
ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร โดยโรงงานจะเปิดให้บริการได้ในปี 2568 เป็นต้นไป

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...