ถึงเวลาเปลี่ยนศูนย์การค้า ‘ธนิยะ’ ตำนานสีลม 30 ปี สู่โฉมใหม่สุดโมเดิร์น

หนึ่งในศูนย์การค้าที่อยู่ในย่านสีลมมายาวนานกับ “ธนิยะ” ใจกลางย่านสีม ที่ได้เปิดให้บริการมากกว่า 30 ปีแล้ว และอยู่ติดกับรถไฟฟ้าสถานีศาลาแดง สร้างเสร็จก่อนรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดินเปิดให้บริการ เป็นโครงการภายใต้กลุ่ม “ธนิยะ กรุ๊ป” ดีเวลลอปเปอร์อสังหาริมทรัพย์ ที่มีโครงการภายใต้การบริหาร ทั้งสำนักงาน อพาร์ทเม้นท์หรู ศูนย์การค้า โรงแรมและสนามกอล์ฟ

“ศลิษา นภาธร” ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ธนิยะ กรุ๊ป กล่าวว่า ศูนย์การค้าธนิยะเป็นศูนย์รวมร้านอุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ฉายภาพย่านการค้าสีลมในทศวรรษนี้ มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น จากการที่มีผู้ประกอบการค้าปลีกทั้งรายใหม่เข้ามาลงทุน การปรับปรุงพื้นที่ของผู้ประกอบการรายเดิม การขยายอาคารสำนักงานใหม่อย่างคึกคักมาตลอด

ทั้งนี้ ย่านสีลมจึงเป็นขุมทรัพย์การค้าที่มีความสำคัญสุดแห่งหนึ่งใน กทม. และมีราคาที่ดินติดอันดับหนึ่งในห้าที่สูงสุดของ กทม. มาโดยตลอด สำหรับ ธนิยะ เป็นอาคารที่เปิดแห่งแรกๆ ในย่านสีลมมาร่วมกว่า 30 ปีแล้ว และที่ผ่านมา มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ ในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท

สำหรับการปรับโฉมใหม่นี้ เพื่อให้สอดรับกับทำเลสีลม ที่มีการเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่มีความทันสมัยมากขึ้น แต่ได้วางเป้าหมายให้ ธนิยะ ยังกลายเป็นศูนย์กลาง ร้านอุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ที่มีร้านค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับกอล์ฟจำนวน 40 ร้าน และแฟลกชิปสโตร์กีฬากอล์ฟกับแบรนด์ Mizuno Golf

ขยายฐานกลุ่มอายุ 20-30 ปี

นอกจากนี้ที่ผ่านมา ยังได้ดึงร้านยอดนิยมเข้ามาเปิดอย่าง ดอง ดอง ดองกิ ร้านสเปเชียลลิตี้สโตร์จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมดึงร้านค้าสปอร์ตแวร์เข้ามาเสริม และร้านอาหารต่างๆ ไปจนถึงร้านความงาม เพื่อขยายฐานนักกอล์ฟกลุ่มใหม่ ในช่วงอายุ 20-30 ปี ที่สนใจเลือกซื้อสินค้าเสื้อผ้ากีฬาและสินค้าแฟชั่น ในรูปแบบแอคทีฟ ไลฟ์สไตล์มากขึ้น ทำให้ในปัจจุบัน สัดส่วนร้านค้า จะเป็น ร้านกอล์ฟและอุปกรณ์กอล์ฟ ประมาณ 50% ส่วนอีก 50% เป็นร้านค้าแบบผสม

“ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ธนิยะ มีฐานลูกค้าหลักช่วงอายุ 40-50 ปี หลังจากการรีโนเวทแล้ว อยากจะขยายฐานกลุ่มอายุ ลดลงมาจากฐานหลัก โดยเฉพาะช่วงอายุ 20-30 ปีมากขึ้น"

รีโนเวทพื้นที่โซนร้านอาหารดึงร้านญี่ปุ่นเข้ามาเสริม 

สำหรับไฮไลท์ที่กำลังเปลี่ยนใหม่กับ ชั้น 4 ที่กำลังดึงร้านอาหารญี่ปุ่นเข้ามาเปิดเพิ่มเติม คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ เพื่อทำให้ ธนิยะ ยังคงมีเอกลักษณ์ของกลิ่นอายแดนอาทิตย์อุทัย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Authentic Japanese รวมอาหารที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์ ทำเลใจกลางของ กทม.

ภาพรวมพื้นที่รีเทลของ ธนิยะ มีค้าปลีก 2 อาคาร อาคารละ 4 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 1.20 หมื่น ตร.ม. แบ่งเป็น

• ชั้น G และชั้น 2 เป็นร้านกอล์ฟและอุปกรณ์กอล์ฟ เพื่อเป็นคอมมูมินิตี้สำหรับคนรักกีฬากอล์ฟ
• ชั้น 3 เป็นร้านค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น เน้นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างจากร้านค้าอื่นๆ และเปิดตัวร้านใหม่ “S Club” - Active Lifestyle Multi-Brand Store เพื่อรวบรวมแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นต่างๆ 
• ชั้น 4 โซนร้านอาหารและคาเฟ่ ต่างๆ

สำหรับแผนการตลาดเพื่อร่วมต่อยอดดึงกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ วางแผนจัดอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬากอล์ฟ และอีเว้นท์ใหม่ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อร่วมกระตุ้นให้แก่ลูกค้าเข้ามาร่วมใช้บริการในศูนย์การค้า และเพิ่มทราฟฟิก

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปรับโฉมใหม่ในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้ทราฟฟิก เพิ่มขึ้น 20-30% เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,000-35,000 คนต่อวัน ส่วนยอดการใช้จ่ายของลูกค้าภายในศูนย์ จะอยู่ในระดับค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับรีเทลแห่งอื่นๆ โดยจากการปรับพื้นที่ใหม่ จะทำให้ศูนย์การค้า ธนิยะ คงความเป็น Authentic Japanese Lifestyle ไว้เช่นเดิม

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ