ทางเลือกลงทุน ‘หุ้นสโมสรฟุตบอลระดับโลก’ น่าซื้อแค่ไหน?

"ผลงานในสนาม" คือ ปัจจัยเพิ่มรายได้ให้สโมสรได้ ไม่ว่าจะเป็น รายได้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ค่าตั๋วเข้าชมในสนามเหย้า และการขายของที่ระลึกของนักเตะชื่อดัง 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผลงานในสนามสม่ำเสมอ ก็ต้องมีต้นทุนจากการซื้อนักเตะใหม่ โดยสโมสรในพรีเมียร์ลีก มีสถิติซื้อขายนักเตะสูงสุด ต้องมาลุ้นการทำผลงานในสนามว่าจะคุ้มค่ากับค่าตัวนักเตะใหม่ๆหรือไม่

บล.ฟินันเชีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  ชวนนักลงทุน มาทำความรู้จัก 3 หุ้นสโมสรฟุตบอลชื่อดัง  

Manchester United PLC (MANU US) ฉายา “ปีศาจแดง” สโมสรฟุตบอลชื่อดังที่ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยล่าสุดเดือนธันวาคม 2566  Jim Ratcliffe เศรษฐีชาวอังกฤษได้เข้าซื้อหุ้น 25% และบริษัท INEOS Sport เข้าดำเนินงานในธุรกิจฟุตบอล แต่ตระกูล Glazer ยังคงเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่

Juventus Football Club(JUVE IM) สโมสรยูเวนตุส ฉายา “ม้าลาย”  เป็นอีกหนึ่งสโมสรเก่าแก่ของประเทศอิตาลี และเป็นสโมสรแรกที่ได้แชมป์ยุโรปทั้งสามรายการ โดยหุ้นจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อิตาลี (Milan Stock Exchange)

Borussia Dortmund GmbH & Co. (BVB GY) สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หรือที่รู้จักกันในนาม “เสือเหลือง” ที่มีชื่อเสียงในด้านการซื้อตัวนักเตะในราคาไม่แพงและขายต่อให้สโมสรอื่นในราคาที่แพงขึ้น โดยหุ้นจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เยอรมัน (Deutsche Börse Xetra)

ทางเลือกลงทุน หุ้นสโมสรฟุตบอลระดับโลกน่าซื้อแค่ไหน? 

บล.กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า หุ้นสโมสรฟุตบอล ในลีกดังอย่างพรีเมียร์ลีก บุนเดสลีกา กัลโช่ ถือเป็นหุ้นที่ราคามีความสัมพันธ์กับภาวะเศรษฐกิจโลกต่ำ หรืออาจถึงขั้นสวนทางกับเศรษฐกิจโลกและทางเลือกการลงทุนอื่น ทำให้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนผสมความชอบส่วนตัวได้

ทางเลือกในการลงทุนหุ้นสโมสรฟุตบอล ได้แก่ การซื้อหุ้นต่างประเทศผ่านบัญชี Offshore หรือ ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศที่ลงทุนในหุ้นสโมสรฟุตบอลที่เราสนใจก็ได้

“หุ้นสโมสรฟุตบอลระดับโลก” เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติสงครามรัสเซีย-ยูเครนค่อนข้างน้อย ถือเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เน้นไปที่เรื่องของอารมณ์มากกว่าเรื่องของเหตุผลหรือการใช้งาน มักจะทำผลตอบแทนได้ดีในช่วงตลาดขาขึ้น และได้รับผลกระทบน้อยในช่วงตลาดขาลง

แต่จากงบกำไรขาดทุนในช่วง 2 ปีล่าสุด ที่ขาดทุนหลายสโมสร ส่วนหนึ่งเกิดจากวิกฤติ COVID ที่มีมาตรการรักษาระยะห่าง หรือ ควบคุมจำนวนคนเข้าดูในสนาม ทำให้กระทบกับรายได้ ส่วนค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างชัดเจน คือ ค่าจ้างนักเตะตามสัญญา และผลงานในสนาม หากผลงานในสนามไม่ดีด้วย จะกระทบต่องบกำไรขาดทุนในช่วง 2-3 ปีหลังอย่างมาก 

อย่างไรก็ตาม ในภาวะปกติ ความชอบของผู้ลงทุน ประกอบกับผลงานในสนามที่ดี มีนักเตะดังอยู่ในทีม จะยังช่วยพยุงกำไรของสโมสรได้ จึงเป็นหุ้นอีกกลุ่มที่น่าสนใจในการลงทุนระยะยาวและลงทุนด้วยความชอบส่วนตัวได้ 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...