'อายิโนะโมะโต๊ะ' รุกน่านน้ำใหม่สู่ธุรกิจปุ๋ย ต่อยอดเกษตรแบบยั่งยืน

อานิโนะโมะโต๊ะ ผู้ผลิตเครื่องปรุงรสของประเทศไทย ได้วางยุทธศาสตร์ไปสู่ความยั่งยืน ด้วยการสร้าง Well-being หรือ “การอยู่ดีมีสุข” ให้แก่ผู้คนทั่วโลกกว่า 1,000 ล้านคน โดยในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลัก ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ พร้อมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ กับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร คือ อะมิโนไวทัล (BCAAs) และอะมิโนมอฟ (ลิวซีน) เป็นต้น 

อีกการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในรอบปี 2567 ได้ขยายน่านน้ำใหม่ของธุรกิจไปสู่การเกษตร อย่างเป็นทางการ โดยได้เปิดตัว "ธุรกิจปุ๋ย" ครั้งแรก ร่วมต่อยอดธุรกิจเกษตรแบบครบวงจร เนื่องจากอายิโนะโมะโต๊ะ เป็นผู้รับซื้อผลผลิตหลักคือ มันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศ ในการนำมาร่วมผลิตผงชูรส จึงมีวัตถุดิบทางการเกษตรต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ จึงนำมาต่อยอดสู่ธุรกิจปุ๋ย พร้อมวางเป้าหมายร่วมเพิ่มรายได้ให้แก่ภาคการเกษตรให้ผลผลิตเพิ่มสูงขึ้น

 

"โคะเฮ อิชิกะวะ" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ได้มีการเปิดตัว บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ เอฟ ดี กรีน (ประเทศไทย) จำกัด อย่างเป็นทางการ เพื่อวางให้เป็น “บริษัทต้นแบบทางธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม” ของกลุ่มบริษัทร่วมภาคการเกษตร เพื่อสร้างความยั่งยืนในการจัดการกับผลิตภัณฑ์ร่วม ที่ได้จากกระบวนการผลิตผงชูรสและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์ทางการเกษตร

ทั้งนี้ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทมี 11 ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 2 หมวดหมู่ ได้แก่ 1.ผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เช่น กระเทียม เมล็ดกาแฟ 2. ผลิตภัณฑ์เพื่อการเกษตร ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับพืช และอาหารสำหรับสัตว์

 

พร้อมกันนี้ได้ร่วมต่อยอดองค์ความรู้สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่กับ "ปุ๋ยอามินา" ที่มาจากความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีการหมักของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ มาพัฒนาเป็นปุ๋ยชีวภาพ ร่วมเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกที่ดีขึ้นของเกษตรกร จึงเป็นการร่วมยกระดับผลผลิตของเกษตรกรเพิ่มขึ้น

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท จึงเป็นการร่วมสนับสนุนนโยบายในการร่วมดูแลเกษตรกรไทยกว่า 1,376 ครอบครัว ในจังหวัดกำแพงเพชรและนครสวรรค์ เป็นพื้นที่หลักในการปลูกมันสำปะหลังแหล่งใหญ่ของประเทศไทย ร่วมผลักดันในการทำการเกษตรอย่างยั่งยืนทุกขั้นตอน ผ่านการดำเนินการใน 2 โครงการหลัก ทั้ง

1. โครงการ Thai Farmer Better Life Partner ร่วมยกระดับชีวิตให้แก่เกษตรกรพร้อมสร้างวงจรเชิงบวกอย่างยั่งยืน ทั้งไร่มันสำปะหลัง ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ ต่อยอดมาสู่ไร่กาแฟ ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตกาแฟเบอร์ดี้ และ 2. โครงการ Green Coffee Bean (GCB) Farmer Sustainability ร่วมสนับสนุนปุ๋ยเคมีอินทรีย์ที่พัฒนามาจากศาสตร์แห่งกรดอะมิโนให้แก่เกษตรกร เพื่อลดปริมาณการใช้สารเคมีในการเพาะปลูก รวมทั้งช่วยพัฒนาความรู้ ตั้งแต่การปลูกต้นกาแฟ การดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ 

อย่างไรก็ตาม การผลิตปุ๋ยอามินา ของบริษัท อยู่ในฐานการผลิตของโรงงานที่กำแพงเพชร ที่เป็นโรงงานผลิตหลักของผงชูรส และเป็นแหล่งที่มีวัตถุดิบจากมันสำปะหลังจำนวนมาก รวมถึงเป็นโรงงานสีเขียวต้นแบบของบริษัทในประเทศไทย 

ทั้งนี้บริษัทประเมินว่าจะสร้างรายได้จากธุรกิจภาคการเกษตร 2.5 เท่า จากในปัจจุบัน พร้อมบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ ได้ตามแผนภายในปี พ.ศ. 2573

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...