กระทรวงเกษตรฯ ชูการป้องกันแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม
วันที่ส่ง: 15/03/2024 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
ซึ่งมีนโยบายให้จัดทำปุ๋ยหมักกองใหญ่ขึ้นในพื้นที่มีปริมาณเศษวัสดุทางการเกษตรจำนวนมาก จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในเรื่องการปรับปรุงบำรุงดิน และการป้องกันแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม ช่วยลดหมอกควัน และฝุ่นละออง โดยมีแผนการรณรงค์นำร่องในพื้นที่ อำภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีพื้นที่ในการปลูกข้าวโพดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาการเผาเศษวัสดุก่อนการเพาะปลูกพืช
โดย โครงการมีวัตถุประสงค์ ดังนี้
- เพื่อปลุกจิตสำนึก และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรได้ทราบถึงประโยชน์จากการทำปุ๋ยหมัก จากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
- เพื่อสาธิตวิธีการทำปุ๋ยหมักที่ถูกต้อง และเหมาะสมให้แก่เกษตรกร เป็นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน
- เพื่อให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนทัศนคติ งดการเผา และนำวัสดุที่เหลือใช้จากไร่นามาเป็นวัสดุปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต
- เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม ลดหมอกควัน บรรเทาภาวะโลกร้อน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร
ทั้งนี้ปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละออง ก็จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยการดำเนินการในครั้งนี้ จะใช้ผลิตภัณฑ์ของกรมพัฒนาที่ดิน สารเร่ง พด.1 ช่วยในการย่อยสลายเศษพืช และเศษวัสดุ ให้เกิดการหมักที่รวดเร็วให้เป็นปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพในการนำไปใช้ปรับปรุงดิน ให้พืชมีการเจริญเติบโตที่ดี ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ และแร่ธาตุในดินให้สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาการใช้ปุ๋ยเคมี ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต และส่งผลช่วยให้ลดภาวะหมอกควันที่เกิดจากการเผาเศษวัสดุการเกษตร ลดปัญหาต่อชุมชน และทำให้สภาวะแวดล้อมดีขึ้น
นอกจากนี้จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 2.98 ล้านไร่ มีเศษเหลือของวัสดุจากการเกษตร เช่น เศษซังข้าวโพด ดอซังข้าว และอื่นๆ กว่า 1.16 ล้านตันต่อปี แต่เกษตรกรยังขาดการจัดการที่เหมาะสม มีการเผาทิ้งหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรจะส่งผลกระทบต่อดิน ทำลายอินทรียวัตถุ ธาตุอาหาร และจุลินทรีย์ในดิน การเผาเศษพืช 1 ตัน ทำให้สูญเสียธาตุไนโตรเจนประมาณ 2.3 กิโลกรัม ฟอสฟอรัส ประมาณ 1.3 กิโลกรัม และโพแทสเซียมประมาณ 5.7 กิโลกรัม
และยังเป็นสาหตุทำให้เกิดหมอกควัน และปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 6.05 ตัน ต่อการเผาเศษพืช 1 ตัน ทำให้การเจริญเติบโตของพืชไม่เต็มที่ ทำให้ผลผลิตลดต่ำลง หากเกษตรกรนำเศษวัสดุทางการเกษตรที่มีอยู่มาทำปุ๋ยหมัก จะทำให้ลดต้นทุนการผลิตได้ประมาณ 20-30% ทั้งนี้ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ประกาศให้การป้องกัน และแก้ไขปัญหาหมอกควัน และไฟป่าเป็นวาระ จังหวัดเชียงใหม่ มาตั้งแต่ ปี 2555 เพื่อแก้ไขวิกฤติสถานการณ์หมอกควันดังกล่าว
นอกจากการรณรงค์ไม่ให้มีการเผาในพื้นที่การเกษตรแล้ว กระทรวงเกษตรฯ ยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัด ในการนำเศษวัสดุทางการเกษตรกลับมาใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังมอบหมายกรมปศุสัตว์ในการรับซื้อวัสดุทางการเกษตรดังกล่าว เพื่อนำมาเป็นอาหารสัตว์ ถือเป็นสร้างรายได้อีกทางหนึ่งให้เกษตรกร นอกจากนี้ ยังบูรณาการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดตกต่ำ โดยรณรงค์ให้เกษตรกร มีการปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวโพดเป็นปลูกพืชชนิดอื่นที่มีรายได้ที่ดีกว่าเดิม
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...
ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน
จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...
ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย
นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...
สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...
ยอดวิว