บลจ.ไทยพาณิชย์ปั้น‘AUM’ ทะลุ‘2ล้านล้าน’ชูลงทุนบอนด์เด่น

ดังนั้น แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 “ณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ วางเป้าหมายผลักดันสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ ( AUM ) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.9-2 ล้านล้านบาท หากภาวะตลาดตราสารหนี้ยังสนับสนุนการลงทุนในปีนี้ และมีการออกกองทุนใหม่เพิ่มเติม เชื่อมั่น AUM ในปีนี้ยังมีโอกาสทะลุ “2 ล้านล้านบาท” พร้อมกับเป้าหมายขยายฐานลูกค้าแตะ “1 ล้านราย” ภายในอีก 2-3 ปี จากปัจจุบันมีลูกค้ารวม 6 แสนราย

“AUM ของเราปีนี้จะเพิ่มขึ้นราว 1-2แสนล้านบาท หลักๆ มาจากกองทุนรวมมีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 50,000-1แสนล้านบาท โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ และอีกส่วนหนึ่งจากกองทุนส่วนบุคคล มีเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 50,000-1 แสนล้านบาท”

ด้านกลยุทธ์การลงทุนในปีนี้ SCBAM ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนตราสารหนี้ แบ่งเป็นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศสัดส่วน 70% และตราสารหนี้ไทยสัดส่วน 30%  ซึ่งการลงทุนตราสารหนี้ปีนี้ มีโอกาสสร้าง “ผลตอบแทน” ได้ดีในจังหวะการปรับตัวดอกเบี้ยเพื่อล็อกผลตอบแทนในระดับสูงไว้

“เราคาดการณ์ว่า เฟดจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ปีนี้อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง หรือหากเฟดไม่ลดดอกเบี้ยในปีนี้ ผลตอบแทนยังอยู่ในระดับสูง แต่หากเฟดลดดอกเบี้ย 1-2 ครั้งในปีนี้ ผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวยังสูงกว่าเงินฝากและปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบันเฉลี่ยที่ 2.7%”

พร้อมทั้ง ยังมีมุมมอง “เชิงบวก” ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากภาคบริการที่ยังโตและการผลิตที่ฟื้นตัว รวมถึงอัตราเงินเฟ้อโลก มีสัญญาณชะลอตัวลงใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศกำหนด ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนเน้นจับจังหวะทิศทางตลาดทุนเป็นหลัก 

ควบคู่ไปกับการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนหลากหลายกลุ่มทุกเซ็กเมนท์ไม่ว่าจะเป็น กองทุนดัชนี และกองทุนส่วนบุคคล เป็นทางเลือกช่วยกระจายความเสี่ยงในพอร์ต สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ และสถาบัน ปผ่านช่องทางธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นแบงก์แม่ 

ขณะเดียวกัน ผลักดันในส่วนของกองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว (Super Savings Fund) มาขยายฐานลูกค้าในกลุ่มกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและประกัน สามารถกระจายเงินมาลงทุนเพิ่มได้ อีกทั้งยังขยายฐานผู้ลงทุนผ่านแอพพลิเคชั่น SCBAM Fund Click ในกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ซึ่งในปีที่ผ่านมาผู้ลงทุนเพิ่มขึ้นกว่า 40%

ในส่วนแนวโน้ม “ตลาดหุ้นไทย” ช่วงปลายปีนี้ คาดตลาดหุ้นไทยน่าจะมีโอกาสปรับขึ้นได้ ซึ่งต้องรอติดตามการโตกำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่มีโอกาสกลับมาเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสากหรรมหลักของประเทศ รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับมามากขึ้น หลังหน่วยงานกำกับดูแลทั้ง ตลท. และ ก.ล.ต. มีมาตรการเพิ่มเติมคุมเข้มมากขึ้น มองดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีที่ระดับ 1,550 -1,600 จุด แต่หากไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปีนี้ ปัจจัยดังกล่าวยังไม่มีพัฒนาในเชิงบวกมากขึ้น คาดดัชนีหุ้นไทยยังแกว่งตัวที่ระดับ 1,350-1,400 จุด

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...