เกาหลีใต้จ่อแบน ‘หลักทรัพย์เสี่ยงสูง’ โยงหุ้นจีน หลังรายย่อยสูญเงินเฉียด 2 แสนล้านบาท

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงาน (13 มี.ค.67) ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้วางแผนทบทวนการจำหน่ายหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างรอบคอบ หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบสถาบันทางการเงินบางแห่งขายหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับหุ้นจีน (China-linked Structured Products) แก่นักลงทุนรายย่อยจนสูญเสียเงินมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.48 แสนล้านบาท)


"เรากําลังพิจารณาการปรับปรุงระบบอย่างครอบคลุมทั่วทั้งกระดานซื้อขายโดยมุ่งเน้นที่การป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก และจะทบทวนด้วยว่าควรอนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอย่างไร" คิม โซยอง (Kim Soyoung) รองประธานคณะกรรมการบริการทางการเงิน กล่าว 


ด้าน หน่วยงานการกำกับดูแลทางการเงิน (Financial Supervisory Service) กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า อาจห้ามการขายผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงดังกล่าวหลังจากพบว่าธนาคาร และโบรกเกอร์ในประเทศบางแห่งบิดเบือนลักษณะความเสี่ยงของการลงทุน จนเกิดการสูญเสียจากหลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับดัชนี Hang Seng China Enterprises Index มากถึง 5.8 ล้านล้านวอน (4.4 พันล้านดอลลาร์) ในปีนี้

"แม้ว่าจะมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันการขายที่ไม่ถูกหลักการ ดังนั้นเราจึงมองหาทางเลือกสําหรับมาตรการบังคับใช้ที่เข้มงวดขึ้น" คิมกล่าว

"ผู้ที่สร้างหรือขายผลิตภัณฑ์การลงทุนทางการเงินควรคิดให้รอบคอบว่าใครจะเป็นผู้ซื้อที่เหมาะสมสําหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้"
 

วัยเกษียณเกาหลีใต้ลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงเหตุบำนาญไม่พอ

ทั้งนี้ เกาหลีใต้เป็นตลาดหลักสําหรับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีโครงสร้างซับซ้อน ซึ่งหาซื้อได้ตามธนาคาร หลักทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับตราสารทุนได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่ชาวเกาหลีวัยกลางคน และผู้สูงอายุที่ต้องการรายได้พิเศษเนื่องจากระบบบํานาญไม่เพียงพอ และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะรวมองค์ประกอบตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์อ้างอิง เช่น ดัชนีตราสารทุน

ด้านบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า หน่วยงานกํากับดูแลจะพิจารณาเสริมกฎการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในที่บริษัทการเงิน ซึ่งจําเป็นต้องเปลี่ยนแปลง บริษัทต่างๆ ได้ให้สิ่งจูงใจ "มากเกินไป" ภายในระหว่างการขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อเพิ่มผลกําไร
 

ดัชนีหุ้นจีนที่ซื้อขายในฮ่องกงร่วงลงเกือบ 50% ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากจีนต่อสู้กับเศรษฐกิจที่ซบเซา ความตึงเครียดกับสหรัฐ และวิกฤติอสังหาริมทรัพย์

อ้างอิง

Bloomberg 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...