วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ RATCH ผลประกอบการ 4Q66F: ผิดหวังอีกเช่นเคย

ทั้งนี้ กำไรสุทธิในปี 2566 ลดลงมาอยู่ที่ 5.17 พันล้านบาท (-11% YoY) เพราะไม่มีกำไรจากตีราคาสินทรัพย์เหมือนกับใน 4Q66 ในขณะที่กำไรหลักเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.23 พันล้านบาท (+2% YoY) เพราะผลการดำเนินงานของ SPPs แข็งแกร่งขึ้น และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก NEJV ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 แต่กำไรถูกกดโดยยอดขายที่ลดลง, ต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น และ ต้นทุนดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น

ประเด็นที่น่าสนใจ – ถูกกระทบอย่างหนักจากปัจจัยลบ

กำไรที่ลดลงมาก QoQ เป็นเพราะ i) ปิดซ่อมบำรุง IPP ของ RG ตามแผน ซึ่งทำให้ค่าความพร้อมจ่าย (AP) ลดลง และมีต้นทุนซ่อมบำรุง ii) ต้นทุนดำเนินงานสูงขึ้นจาก SG&A (+48% QoQ) และดอกเบี้ย (+12% QoQ) พุ่งขึ้น iii) low season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (PNPC, NN2) iv) กำไร SPPs อ่อนแอลง (SCG และ RCO) และ v) ราคาขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลม RAC ลดลง ส่วนผลประกอบการที่พลิกฟื้น YoY เป็นเพราะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก NEJV (LG1 & 2, SP, CS และ RER) ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 และผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสแรก

 

 

ปรับลดกำไรปี 2567-69F ลง 22%/9%/9% in 2024-26F

เราปรับลดกำไรปี 2567F ลงเพื่อสะท้อนถึงการเลื่อนรับรู้กำไรโครงการ Paiton ไปเป็น 3Q67 (จากเดิม 2Q67) และต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น ในขณะที่ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569F ลงเพื่อสะท้อนถึงต้นทุนการดำเนินงานที่สูงขึ้น (Figure 3) ซึ่งหลังจากที่ปรับประมาณการแล้ว เราคาด่วากำไรสุทธิในปี 2567-2569F จะโต 20% YoY/32%YoY/8% YoY โดยจะได้แรงส่งจากโครงการ Paiton, การขยาย Nexif และ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งขึ้นของ SPPs ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q67F จะเพิ่มขึ้น QoQ จากการที่ค่าใช้จ่าย SG&A กลับมาอยู่ระดับปกติ และ อุปสงค์การใช้ไฟฟ้ากลับมา

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำถือ RATCH และปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567 ลงเหลือ 33.00 บาท จากเดิมที่ 37.00 บาท ถึงแม้ว่าราคาหุ้น RATCH จะตกลงมาจนถึงระดับที่ต่ำที่สุดแล้ว แต่เรามองว่า ณ จุดนี้ยังไม่น่าจะมีการ re-rate นักลงทุนยังไม่แน่ใจกับแนวโน้ม ROE ของ RATCH เพราะยังรอความชัดเจนจากการปิดดีล Paiton อยู่ ดังนั้น นักลงทุนที่หาหุ้นเติบโตอาจจะหลีกเลี่ยงหุ้น RATCH ไป แต่นักลงทุนที่มองหาปันผลอาจจะลงทุนใน RATCH ต่อได้ เพราะ yield สูงถึง 5% ต่อปี ในขณะทีหุ้นมี P/E เพียง 9x ทั้งนี้ เราคาดว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Paiton (หลังจากที่ถูกเลื่อนมาหลายรอบ) และโครงการที่ไม่ใช่โรงไฟฟ้าจากการประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 4 มีนาคม

Risks

การปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย

 

 

 

 

 

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...