‘ซีคอนศรีนครินทร์-บางแค’ เร่งเครื่องธุรกิจ มุ่งสร้างสิ่งใหม่ ดึงลูกค้า​

งานครบรอบปีที่ 44 ของฐานเศรษฐกิจ ในวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ในเวทีเสวนาใหญ่ “THE ICONIC : ROAD TO SUCCESSOR” มีนักธุรกิจชั้นนำร่วมแสดงวิสัยทัศน์ แบ่งปันมุมมองด้านธุรกิจสู่ความสำเร็จ

ดร.จักรพล จันทวิมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากบทบาทการบริหาร บริษัท นันยาง มาร์เก็ตติ้ง ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ มาตั้งแต่ปี 2553 ที่ทุกคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรองเท้านันยางมาต่อเนื่อง มาสู่อีกบทบาทใหม่ร่วมบริหารศูนย์การค้าซีคอน ทั้งธุรกิจศูนย์สรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และ ซีคอน บางแค บริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจ

ทั้งนี้ได้เข้ามาร่วมดูแลการตลาด ให้แก่ศูนย์การค้าต่อเนื่องมา ตั้งแต่ปี 2563 ควบคู่กับนันยางจนถึงปัจจุบัน

"ได้ร่วมบริหารทั้งนันยาง และร่วมดูแลการตลาดให้แก่ศูนย์การค้าซีคอนไปควบคู่กัน" 

แนวคิดสำคัญของการบริหาร ศูนย์การค้าทั้งสองแห่ง ทั้งได้มุ่งให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนใหม่ภายใน และการสร้างสิ่งใหม่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมดึงดูดกลุ่มลูกค้าเข้ามาในพื้นที่ ยกตัวอย่างพื้นที่ใหม่ "ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์" จัดแสดงสินค้า ที่หมุนเวียนเปลี่ยนสิ่งใหม่ในทุกสองสัปดาห์ จึงช่วยดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาในพื้นที่ได้รับสิ่งใหม่ต่อเนื่อง

รวมถึงการจัดทำพื้นที่ MUNx2 โดยเป็น Retail Experimental Space เปิดโลกเปิดประสบการณ์ให้คนรุ่นใหม่ ร่วมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และปลดปล่อยพลังใหม่ๆ 

ดร.จักรพล จันทวิมล Marketing Director บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ 

ภาพ: กอบภัค พรหมเรขา 

หากย้อนกลับไปทั้งสองแห่งมีการเปลี่ยนแปลงมาต่อเนื่อง โดย "ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์"  ได้เปิดดำเนินการมาร่วม 30 ปีแล้ว เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ติดอันดับหนึ่งในห้างของอาเซียน มีพื้นที่ 87 ไร่ เป็นการลงทุนร่วม 10,000 ล้านบาท และมีบันไดเลื่อนเปิดให้ดำเนินการ 100 ตัว

ทั้งนี้ได้ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศไทย ทั้งการเปิด โลตัส ซูเปอร์มาร์เก็ตในสาขาแรก รวมถึงการมีโรงหนัง อีจีวี มัลติเพล็กซ์ ที่มีขนาดใหญ่มาก และมีสนามกอล์ฟ สวนสนุกในร่มที่มีขนาดใหญ่ โดยในปีก่อน สวนสนุกโยโย่แลนด์ ทำสถิติ ยอดขายและกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาในพื้นที่อย่างสูงสุด

สำหรับ ซีคอน บางแค เป็นค้าปลีกที่เข้าไปซื้อ และดำเนินการมาร่วม 11 ปีแล้ว มีพื้นที่รวมประมาณ 3 แสนตารางเมตร มีจำนวนร้านค้าให้บริการ 250 ร้าน มีพื้นที่จอดรถ 4,000 คัน มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการราว 20 ล้านคนต่อปี และมีรถเข้ามาหมุนเวียนรวม 3.5 ล้านคัน

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าทั้งสองแห่งได้วางหมุดหมายสู่การเป็นแหล่งชอปปิงของคนในพื้นที่หรือ โลคอล ชอปปิง มอลล์ เป็นคอมมูนิตี้ ชอปปิงมอลล์ เพื่อให้เป็นใจกลางพื้นที่รีเทลของสองย่านแห่งนี้ทั้ง ศรีนครินทร์ และบางแค ร่วมดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ และลูกค้าเก่าเข้ามาใช้บริการ

นอกจากการมุ่งสร้างสิ่งใหม่แล้ว ยังมุ่งการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทีมงาน และพนักงานทุกคน โดยมุ่งร่วมพัฒนาบุคลากรขององค์กร ใน 4 ด้านสำคัญได้แก่

1.Growth mindset  การทำให้พนักงานทุกคนในทีมงาน และมีความคุ้นชินกับเรื่องความล้มเหลว หรือมองว่า False is Fine ซึ่งจะมีการประชุมอย่างต่อเนื่องกับ หัวหน้า เพื่อมาพูดคุยว่าทุกคนสามารถมีข้อผิดพลาดได้ และอยากให้คุ้นชินกับความผิดพลาด และกล้าที่จะล้มเหลว

2.Charisma กับการให้ความสำคัญกับการสร้างเสน่ห์ของศูนย์การค้า ผ่านดีเอ็นเอ ที่มีอยู่พนักงานทุกคน และการให้มีการจัดทำ คาริสมาเดย์ ที่มีวันหยุดประจำของบริษัทที่ให้ความสำคัญด้านนี้

3.Proactive การจัดทำ เวที Sed talk ที่เปิดให้พนักงานทุกคนได้ร่วมพัฒนาตัวเอง และร่วมลุ้นชิงรางวัล 50,000 บาท และร่วมส่งเสริมพนักงานยกระดับทักษะต่างๆ 

4.Closing the gap ได้เปิดให้พนักงานรุ่นใหม่เข้ามาร่วมขับเคลื่อนองค์กร อย่างในปัจจุบันมีพนักงานที่มีอายุมากกว่า 30 ปีในสัดส่วน 60% จากที่ผ่านมา มีสัดส่วน 80% แล้ว 

ทั้งหมดสะท้อนถึงการเติบโตของรีเทลทั้งสองแห่ง ที่ต่างเป็นหมุดหมายสำคัญของทั้งย่านบางแค และศรีนครินทร์ ที่ครองใจกลุ่มลูกค้าทั้งคนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าประจำ ที่ใช้บริการมายาวนาน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ