เกาหลีใต้ เล็งปรับโครงสร้างตลาดหุ้น ดึงฟันด์โฟลว์ไหลเข้า 8 พันล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นเกาหลีได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลังจากที่ได้รับการพิสูจน์ว่าการหน่วยงานกำกับดูแลทางด้านการเงินของเกาหลีใต้ (Financial Service Comission: FSC) กำลังพิจารณาออกมาตรการปรับโครงสร้างเพิ่มมูลค่าบริษัทจดทะเบียนเช่นเดียวกับญี่ปุ่น เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น

โดยตลาดหลักทรัพย์เกาหลีจะกำหนดตัวชี้วัด เพื่อวัดประสิทธิภาพการบริหารจัดการเงินทุน คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 1/2567

ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน กองทุนต่างประเทศเทเงินไหลเข้า  ดัชนีราคาหุ้นคอมโพสิตของเกาหลี (KOSPI)  มากถึง 10.2 ล้านล้านวอน หรือราว 7.7 พันล้านดอลลาร์  ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1999 ตามรายงานจาก Bloomberg เกณฑ์มาตรฐานซึ่งเริ่มต้นปีอย่างไม่หยุดยั้ง พบว่าโชคชะตาพลิกกลับเมื่อรัฐบาลโน้มน้าวให้มีการปฏิรูปแบบญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าหุ้น

ในช่วงที่ผ่านมา หุ้นเกาหลีใต้มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการผูกขาดธุรกิจของกลุ่มทุนใหญ่ หรือแชโบล ทำให้เกิดการปันผลหุ้นที่ไม่เป็นธรรมต่อนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ในตลาด

แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เกาหลีพยายามแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อเทียบกับคู่แข่งในเอเชีย แต่นักลงทุนต่างเดิมพันว่าแนวทาง "จากบนลงล่าง" ของประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล (Yoon Suk Yeol) จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น คณะกรรมการบริการทางการเงินจะประกาศรายละเอียดของแผนการปฏิรูปองค์กรที่เรียกว่าโปรแกรม "มูลค่าเพิ่ม" ในวันจันทร์

Kang DaeKwun ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Life Asset Management Inc. ในกรุงโซล กล่าวว่า ฟันด์โฟลว์จากกองทุนต่างประเทศที่ไหลเข้า นั้นมาจากกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การลงทุนระยะยาว

แรงซื้อในตลาดทำให้ Kospi เพิ่มขึ้น 6% และหุ้นที่ถูกประเมินราคาถูกเป็นเป้าหมายสำคัญของนักลงทุน อย่าง บริษัท Hyundai Motor Co. และหุ้นธนาคารอย่าง KB Financial Group Inc. จัดอยู่ในกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติชื่นชอบ

หน่วยงานเฝ้าระวังทางการเงินของเกาหลีใต้ กล่าวว่า กองทุนในสหราชอาณาจักรมีสัดส่วนการซื้อมากที่สุดในเดือนมกราคม โดยมีมูลค่า 3.2 ล้านล้านวอน โดยจะเปิดเผยข้อมูลสำหรับเดือนนี้ในช่วงกลางเดือนมีนาคม

อ้างอิง Bloomberg 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ