นับถอยหลังว่าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดย กล้า ปีนเกลียว

นับเวลาถอยหลังเข้าสู่การเลือกตั้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ปี 2567 แม้ว่าเราจะมีนายกสมาคมฯคนใหม่ที่เป็นคนใหม่เอี่ยมอย่างแน่นอน แต่ก็ดูเหมือนจะขาดความตื่นเต้นไปสักนิด

แตกต่างจากเมื่อ 3-4 ครั้งที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะดูเหลี่ยมมุมไหน ก็ต้องชี้ชัดไปที่ตัวเก็งเต็ง 1 มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ นอนมาแบบทิ้งคู่แข่งค่อนข้างจะขาดลอย

และแม้ว่าจะมีเวทีดีเบต แสดงวิสัยทัศน์ ว่าที่นายกฯคนใหม่ ในหลากหลายเวทีด้วยกัน และหลายเวทีนั้นก็พยายามจะตัดแต้ม ตัวเก็งอย่างมาดามแป้ง ที่สวมวิชานินจา ล่องหน ปฎิเสธการร่วมเวทีดีเบตทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ม.เกษมบัณทิต , สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯ ,ไทยพีบีเอสหรือเว็บเมนสแตน ก็ตาม

แต่ก็ดูเหมือน คะแนนของมาดามแป้งก็ยังไม่อ่อนกำลังลงนัก แล้วยิ่ง มวยเบอร์สองที่มองว่าอาจจะเป็นม้ามืดควบมาห่างๆอย่าง บิ๊กตุ๋ย ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ที่ได้แบ็คสัตว์ใหญ่หนุนหลัง ก็ไม่ยอมขึ้นเวทีด้วย ทำให้คะแนนและความนิยมลดฮวบสวนทางกับมาดาม เพราะ บิ๊กตุ๋ย ยิ่งไม่ออกสื่อ ก็ยิ่งเงียบ คนดูผู้ชมข้างเวทีแทบจะมองออกว่า มวยเบอร์นี้ออกแนวโยนผ้ายอมแพ้แบบไม่ครบยกไปแล้วด้วยซ้ำ

ดังนั้นกลับมามองที่ คะแนนของ มาดาม ที่ว่ากันว่าอาจจะได้ไปถึง 60 เสียงจาก 73 เสียงในขณะนี้ ได้มีการมองข้ามช็อตไปถึง ทีมนายกสมาคมฯแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ที่จะออกมาว่า งานนี้ จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากที่มีปาร์ตี้ใหญ่ ที่มีทั้งเสือสิงห์กระทิงแรดช้างควบรวมเข้าด้วยกัน

บ้านใหญ่เนวิน บ้านสิงห์บีจี ที่ประกาศตัวพันธมิตรล่วงหน้ามานาน มีมิตรใหม่ชลบุรีแยกทางบิ๊กออ็ดบิ๊กตุ๋ยมาสนับสนุน พ่วงด้วยสื่อใหญ่ค่ายสยามสปอร์ตเมืองทองให้การสนับสนุน และ ค่ายพรรคการเมืองใหญ่ร่วมรัฐบาลให้ท้าย

รัฐบาลคณะแป้งคณะนี้ จึงนับว่าใหญ่มาก ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหาที่ตามมาคือ การจะควบคุมขาใหญ่ ปาร์ตี้ร่วมนี้ให้อยู่มือ ทำให้มาดามมีสเถียรภาพ และสามารถทำงานได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้หรือไม่

ถึงตรงนี้เห็นภาพ ก็ต้องบอกเลยว่า ไม่น่าจะทำงานได้ง่าย ในการแบ่งเค้ก จัดสรรปันส่วน พื้นที่ ในแต่ละค่ายที่มาร่วมชุมนุม ต่างฝ่ายต่างเป็นก๊กใหญ่ และแต่ละก๊กนั้นก็มีความต้องการหลักแฝงอยู่ ก็คือ การสร้างความยิ่งใหญ่ ความสำเร็จให้สโมสรของตัวเองกันแทบทั้งนั้น นายกฯเองก็ยังมีภาพของ สโมสรเป็นแบ็คอัพติดตัวอยู่อีกต่างหาก

เท่าที่ทราบมา การแบ่งเค้กง่ายๆในการทำงานช่วยทีมชาติในขณะนี้ที่แทบจะลงตัวแล้วว่า ยู 17 เป็นค่ายอิสานใต้ เบอร์ใหญ่ต่อไปเป็นค่ายย่านปทุม ส่วนเบอร์เล็กสุดลงจากยู 17 ให้ทางค่ายตะวันออกจัดการ

แค่นี้ก็สามารถชี้ให้เห็นได้แล้วว่า ในอนาคตต่อไป เรื่องราวมันจะออกมามะรุมมะตุ้มเพียงใด
ทีมชาติมาจากต่างที่ต่างถิ่นต่างเหล่าต่างก๊ก แล้ว รูปแบบของทีมชุดใหญ่ สุดท้ายจะอกมาเป็นพันธ์ผสม และจะทำยังไงให้เป็นสูตรสำเร็จจากโจทย์ที่แสนยากนี้

ไม่รวมกับ สิทธิประโยชน์ต่างๆที่แต่ละคนยิ่งเห็นต่าง สไตล์อิสานจะทำศูนย์ฝึกฯฟีฟ่าที่หนึ่ง อีกค่ายหนึ่งก็อยากให้เป็นอีกศูนย์หนึ่ง และป้อมค่ายฝ่ายการจัดการก็ต่างมีขาใหญ่ที่เข้ามาหยิบชิ่นปลามัน ลิขสิทธิ์การถ่ายทอด ที่ถือเป็นเค้กชิ่นใหญ่สุด ก้อนมโหฬารที่กำลังมาถึง

ด้วย ป้อมค่ายที่ต่างฝ่ายต่างใหญ่ โดยที่นายกฯไม่สามารถมีคะแนนเสียงตัวเองอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบบิ๊กอ๊อดเคยได้จากถิ่นอิสาน หรือ บังยีได้จากแบ็คอัพของตัว

อันนี้ จะเป็นงานยุ่งหลังจากที่เริ่มตั้งรัฐบาลแล้วแน่ๆ