‘เศรษฐา‘ ปลื้มมาระนองรอบ 40 ปี รับปากยกระดับท่าเรือระนอง - เกาะสอง ให้ทันสมัย


วันนี้ (22 ม.ค.67)  ณ ท่าเรือ-เกาะสอง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ติดตามประเด็นการค้าผ่านแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร และประมง และพบปะผู้แทนชาวประมงในการแก้ไขปัญหา IUU รวมถึงพบปะประชาชนกลุ่มประมง และมอบบัตรคนไทยพลัดถิ่น 14 คน ให้แก่ตัวแทนผู้รับมอบ พร้อมด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย   

โดยมี นายนริศ  นิรามัยวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากน้ำ
หัวหน้าส่วนราชการ  นายกสมาคมประมงระนอง ผู้ประกอบการประมง และประชาชนมารอให้การต้อนรับ  นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงบริเวณท่าเรือระนอง ได้ทักทาย และขอบคุณประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างอบอุ่น และพูดคุยกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง รวมทั้งพบปะกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นด้วย 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังสรุปรายงานจาก 4 หน่วยงาน (ด่านศุลกากร ด่านตรวจประมงระนอง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง จัดหางาน จ.ระนอง) เพื่อติดตามประเด็นการค้าชายแดน แรงงานข้ามชาติ พิธีการศุลกากร การประมงการแก้ไขปัญหา IUU โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวพบปะกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับว่า รู้สึกดีใจที่มา จังหวัดระนอง ครั้งแรกในรอบ 40 ปี โดยมาพร้อมกับคณะรัฐมนตรี รู้สึกซาบซึ้งกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและจริงใจของประชาชนชาวจังหวัดระนองในครั้งนี้ รวมถึงความจริงใจที่ชาวใต้มีให้กับนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี แม้จังหวัดระนอง เป็นจังหวัดเล็ก แต่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ 

สำหรับประเด็นเรื่องท่าเรือ ที่ได้รับฟังซึ่งมีหลากหลายมิตินั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการปรับท่าเรือระนอง ให้มีการยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้น เพราะรัฐบาลคำนึงถึงการค้าชายแดน และการเดินทางของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงท่าเรืออย่างเดียวคงไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด แต่เรื่องของการขนส่งสินค้าทั้งขาเข้า-ขาออก ก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะผู้ประกอบการต้องการความสะดวกสบาย one stop service เวลามาแล้วไม่ต้องเสียเวลาในการคอยหรือต้องผ่านหลาย ๆ โต๊ะ ตรงนี้ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ที่ต้องการจะทำให้ท่าเรือระนองแห่งนี้มีความทันสมัย และมีความสะดวกสบายในการใช้ 

นายกรัฐมนตรียืนยันเรื่องนี้จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่แค่จะทำให้ท่าเรือนี้ดีขึ้นเท่านั้น แต่จะดูไปถึงเรื่องของการประมงด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการแก้ไขปัญหา IUU เกิดผลสำเร็จไปในระดับหนึ่งแล้ว ทำให้สามารถปลดล็อกเรือประมงไทยให้ออกไปค้าขายดีขึ้น 
 
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำ ในภาพใหญ่รัฐบาลต้องการพลิกฟื้นอาชีพประมงไทย เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา กฎหมายประมงไม่ตรงกับแนวทางปฏิบัติจริง ผู้ประกอบการประมงรายเล็ก กว่า 20,000 ราย ต้องเลิกกิจการไป รัฐบาลจึงได้ปรับ พ.ร.บ. ประมงเพิ่มเติมฯ เพื่อทำให้ประมงไทยกลับมามีรายได้ และส่งออกได้มากขึ้น คนไทยได้รับประทานอาหารทะเลที่มีคุณภาพ และราคาถูก อนุรักษ์ทะเลได้อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันก็เคารพในกติกาสากลที่เป็นธรรม และเท่าเทียม ดูแลคุ้มครองแรงงานไม่ให้ผิดหลักมนุษยชน และทำให้สินค้าประมงจากไทยโปร่งใสตรวจสอบได้

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...