งานหนักของมือหนึ่ง

ท่าดีแต่ทีเหลวของแทร่!! ต้องยกให้ “เบอร์1อาเซียน” ทีมชาติเวียดนาม เลยล่ะครับ

หลังพวกเขาเปิดหัวศึกเอเชี่ยนคัพ 2023 อย่างเร้าใจ

ด้วยการกระซวกไส้ทีมชาติญี่ปุ่นถึง 2 ลูก ก่อนแพ้ไป 2-4 แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมไปทั่ว

แต่...อนิจจา แค่ไม่กี่วันต่อมา แข้งเหงียน ทีมเดิม ลงเล่นนัด2 กับทีมในอาเซียนด้วยกัน

กลับเสียฟอร์มพ่ายให้กับนักเตะอิเหนา อินโดนีเซีย 0-1

กลายเป็นทีมแรกที่ต้องกระเด็นร่วงรอบแบ่งกลุ่ม...ชนิดช็อคกองเชียร์ญวนทั้งชาจิ...ไปซะง้าน!

ทำให้ตอนนี้ ความหวังของทีมลูกหนังจากชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จึงน่าจะถูกโฟกัสมาอยู่ที่ “ทีมชาติไทย” ของเรา อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

เพราะจากผลงานอันโดดเด่นเป็นสง่าในเกมแรกของแข้งช้างศึก

ที่เฆี่ยนเอาชนะ คิร์กิซสถาน 2-0 ด้วยฟอร์มที่เข้าตากรรมการแบบสุดๆ

จนพาตัวเองขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอฟ ด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าเศรษฐีน้ำมัน ซาอุดิอาระเบีย อยู่ 1 ลูก

ซึ่งเกมแมตช์สอง ที่ทีมชาติไทย กำลังจะลงบู๊แข้งกับทีมชาติโอมาน แรงกิ้งฟีฟ่า อันดับ 74 ของโลก

ในคืนวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 นี้ เวลาไทย 21.30 น.

โดย PPTV HD 36 และ T-Sports 7 จะถ่ายทอดสดให้ลุ้นเชียร์กันอีกครั้ง

ถือว่าสำคัญยิ่ง เพราะหากเราเก็บอีก 3 แต้มได้สำเร็จ ก็จะการันตีการทะลุเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ทันที

หรืออย่างน้อยไม่แพ้ไว้ก่อน ก็จะมีเพิ่มเป็น 4 แต้ม ไม่น่าพลาดตั๋วเข้ารอบต่อไปเช่นกัน

ผิดกับ โอมาน ซึ่งพ่าย ซาอุฯมา 1-2 ดังนั้นเกมนี้จะแพ้อีกไม่ได้เด็ดขาด

เพราะนั่นหมายถึง..การกลับบ้านเร็วทันที

จึงเชื่อขนมกินได้เลยว่า พวกเขาจะต้องมาเปิดเกมรุกบุกแหลกเข้าใส่ทีมช้างศึก ตั้งแต่นาทีแรกค่อนข้างแน่

ดังนั้นจึงต้องรอดู “กึ๋น” ของ กุนซือ มาซาทาดะ อิชิอิ

ว่าจะเตรียมวางหมากมารับมือกับยอดทีมแดนอาหรับ แบบไหน อย่างไร?

เพราะสถานการณ์ในเกม ดูแล้วน่าจะแตกต่างกับแมตช์แรกอย่างสิ้นเชิง

แนวรุก 3 ศุภ (ศุภชัย-ศุภณัฏฐ์-สุภโชค) ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสะเด่าทรวงในเกมที่แล้ว อาจจะทะลุทะลวงยากขึ้น

เพราะ โอมาน เขาเห็นแล้ว ว่าจะต้องจัดการกับใคร เพื่อลดทอนความอันตรายของแนวรุกช้างศึก

ขณะเดียวกันเกมรับของเรา ก็ต้องเจอโจทย์ที่ยากขึ้นกว่าเดิม

ไม่เหมือนที่เล่นกับคิร์กิซฯ ที่เกมบุกแทบไม่มีนำ้ยาทำอะไรไทยแลนด์ได้เลย

ซึ่งแน่นอนว่าคนที่ต้องทำงานหนัก แบกรับภาระในเกมนี้

นอกจากกองหลังที่ “โค้ชมาซะ”ต้องวางตัวให้ดี และรอบคอบ อย่างที่สุดแล้ว

ปราการด่านสุดท้าย ที่น่าจะยึดมือหนึ่งในยุคของ อิชิอิ ได้แบบยาวๆ

อย่าง “เจ้าไมค์” ปฏิวัติ คำไหม

ก็จะเป็นคีแมนสำคัญยิ่งอีกตัวนึง ที่จะช่วยเซฟแต้มสำคัญให้ทีมช้างศึกในนัดนี้ได้

หลังเกมประเดิมสนามที่ผ่านมา ผู้รักษาประตูจอมหนึบจากค่าย “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด

ทำหน้าที่ได้อย่างเพอร์เฟคต์ จนเก็บ “คลีนชีต”นัดแรกของตัวเอง ในการรับใช้ชาติได้สำเร็จอย่างยอดเยี่ยม

ส่งผลให้ทาง Sofascore เว็บไซต์ให้คะแนนนักเตะ ตัดเกรดให้เขาถึง 8.2

กลายเป็นนายทวารของทีมยอดเยี่ยมเอเชี่ยนคัพ ประจำโปรแกรม เปิดหัวของแต่ละกลุ่ม ไปในทันที

ขณะที่ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อดีตตำนานศูนย์หน้า “เบอร์1” (ตลอดกาล) ของทีมชาติไทย ได้เอ่ยปากชื่นชมนายด่านจาก บียู ผู้นี้

และเป็นผู้เล่นทีมชาติเพียงคนเดียวที่ “เดอะตุ๊ก” ให้คะแนน 10 เต็ม 10 ไม่มีหัก ในนัดชนะคิร์กิซสถาน แบบไม่มีลังเล

อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงบทเริ่มต้นที่สวยงาม ของ ปฏิวัติ ในการเปิดประตูบานแรก สู่ความสำเร็จในสีเสื้อช้างศึกเท่านั้น

บททดสอบต่อไปที่เขาต้องเจอแน่ๆ ในแมตช์สองกับ โอมาน จะยิ่งยากมากขึ้นเป็นเท่าตัว

เพราะการเล่นกับชาติอาหรับ ก็อย่างที่รู้กัน ถ้าเป็นที่อื่น...ก็พอสูสี สู้กันได้

แต่เมื่อไหร่ ที่เป็นการเจอกันในถิ่นทะเลทราย ตะวันออกกลาง ที่พวกเค้าคุ้นเคย ล่ะก็

รับรองได้ถ่มน้ำลายไม่พ้นคอ ชนิดหืดรับประทานทุกครั้งไป

ไม่เชื่อก็ลองถามตัว “เจ้าไมค์” ดูก็ได้

เพราะเกมที่เขาเดบิวต์ทีมชาติ เมื่อต้นปีก่อน ที่ยูเออี.

เจ้าตัวเคยเจอกับฝันร้ายมาแล้วรอบนึง ในเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ กับ ทีมชาติซีเรีย

ซึ่งเขาทำผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ช้างศึกต้องพ่ายไป 1-3 อย่างน่าเจ็บใจ

ก็หวังว่าเวลาผ่านไปเกือบปี “ไมค์” ปฏิวัติ จะเก็บบทเรียนเพือรอลบรอยแผลจากเกมแมตช์นั้น...อย่างตั้งอก ตั้งใจ

แล้วพา “ทีมชาติไทย” ยุค อิชิอิ เก็นแต้ม เพื่อทะยานเข้ารอบสองศึกชิงเจ้าเอเชีย

ได้สมกับความปรารถนาของแฟนช้างศึก

ที่ต่างส่งพลังใจแรงเชียร์อย่างทะลักล้น...กันทั่วทั้งประเทศ !!!

บี บางปะกง

[email protected]