จับตา ‘ไต้หวัน’ หลังเลือกตั้ง ปมสัมพันธ์ ‘จีน’ เขย่าเสถียรภาพโลก

Key points

  • ไล่ ชิงเต๋อจะไม่คิดการใหญ่ เพื่อเปลี่ยนสถานะไต้หวัน ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องมีเสียงข้างมากให้ขาดลอย แต่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าครองที่นั่งในสภาเพียง 45% ดังนั้นดีพีพีจึงไม่อาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ในตอนนี้
  • เป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ปักกิ่งจะทยอยยกเลิกโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีแก่สินค้าไต้หวัน  ภายใต้กรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (ECFA) ล่วงหน้าไว้เพิ่มเติม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หวังสร้างแรงกดดัน
  • จุดยืนจีนปี 2567 คือ การแสวงหาเสถียรภาพ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ซบเซา ด้วยเหตุนี้การเผชิญหน้าทางทหารในช่องแคบไต้หวัน จึงเป็นสิ่งที่จีนไม่โปรดปราน

คณะผู้เชี่ยวชาญด้านจีนจากศูนย์วิจัยสติมสัน (Stimson) ได้วิเคราะห์แบบเรียลไทม์ หลังรู้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี รองประธานาธิบดี และสมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวัน ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

ท่ามกลางกระแสความดีใจที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้รับชัยชนะ และคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ได้เป็นประเด็นสำคัญให้ศูนย์วิจัยสติมสัน ทำการศึกษาต่อความเป็นไปได้ในทุกมิติ ทั้งความพยายามทางการทูต เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ศักยภาพไต้หวัน และความขัดแย้งกับจีน  อันจะส่งผลในระดับภูมิภาคและระดับโลก

  • จีน - ไต้หวัน หลังเลือกตั้ง

“อึน ซง” ผู้อำนวยการโครงการจีนศึกษา แสดงความเห็นไว้ว่า เป็นที่รู้กันดี ไล่ ชิงเต๋อ ไม่ใช่ผู้สมัครที่จีนชื่นชอบ หลังจากนี้ เขาจะเหมือนเป็นผู้มีความผิด ถูกจีนจับตาการกระทำ ที่ถูกมองว่า แสวงหาเอกราชไต้หวัน

นโยบายที่ไล่ ชิงเต๋อพูดไว้ในระหว่างหาเสียงที่ว่า จะส่งเสริมเอกราชไต้หวัน จะไปได้ไกลแค่ไหนและเร็วเพียงใด ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเชื่อว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ ไล่ ชิงเต๋อจะไม่คิดการใหญ่ใดๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะของไต้หวัน เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือทำประชามติ

"เพราะความเป็นจริงแล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องมีเสียงข้างมากให้ขาดลอย แต่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ครอบครองที่นั่งเพียง 45% ในสภา ดังนั้นดีพีพีจึงไม่อาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้ตอนนี้" ผอ.โครงการจีน ระบุ 

  • จดจำ - สนองกลับหลังคว้าชัยเลือกตั้ง

ถึงอย่างไร สำหรับจีนแล้วปัญหาไม่ได้รุนแรงน้อยลง ดั่งที่ไล่ ชิงเต๋อกล่าวกับบลูมเบิร์ก ในช่วงฤดูการหาเสียงเลือกตั้ง เขามองสถานะไต้หวันว่า เป็นดินแดนที่มี “อธิปไตย และอิสรภาพ” จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ขณะที่จีนมองว่า ไล่ ชิงเต๋อข้ามขั้นตอนทั้งหมดนี้ไปทั้งหมด เพื่อมุ่งแสวงหาเอกราชไต้หวัน เพราะเขาเชื่อมั่นว่า ไต้หวันมีอิสรภาพอยู่แล้ว

แน่นอน เราจะเห็นว่า จีนไม่มีท่าทีตอบกลับใดๆ ต่อคำกล่าวของไล่ ชิงเต๋อ ในช่วงฤดูการเลือกตั้ง เพราะ 1.เขาพูดในฐานะผู้สมัคร และ 2.ปฏิกิริยาใดๆ ของจีนจะย้อนกลับไป เมื่อเขาได้รับเลือกแล้ว

ไล่ ชิงเต๋อเป็นเพียงผู้ถูกสันนิษฐานว่ามีความผิด ดังนั้นจึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ปักกิ่งจะทยอยยกเลิกโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีแก่สินค้าไต้หวัน  ภายใต้กรอบข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (ECFA) ล่วงหน้าไว้เพิ่มเติม แต่ไม่ใช่ทั้งหมด หวังสร้างแรงกดดัน

ก่อนหน้านี้ จีนได้ยุติสิทธิทางภาษีฯ ให้กับผลิตภัณฑ์ปิโครเคมี 12 รายการจากไต้หวันเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และกระทรวงพาณิชย์จีนได้ประกาศก่อนการเลือกตั้ง 3 วันว่า จะมีแผนดำเนินการที่คล้ายกันนี้กับสินค้าเครื่องจักร สิ่งทอ ชิ้นส่วนรถยนต์ ผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม และปลา

หากแต่จีนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันต่อไป ถึงอย่างไรผลกระทบจากความร่วมมือ ECFA ก็ยังมุ่งไปที่ภาคเกษตรกรรม และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ของไต้หวันมากขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยที่ผลกระทบต่อแต่ละเขตเลือกตั้ง ก็แตกต่างกันไป

 

  • มองเกมจีน อ่านใจไล่ ชิงเต๋อ

จุดยืนจีนปี 2567 คือ การแสวงหาเสถียรภาพ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ซบเซา ด้วยเหตุนี้การเผชิญหน้าทางทหารในช่องแคบไต้หวัน จึงเป็นสิ่งที่จีนไม่โปรดปราน 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า จีนจะรักษาแรงกดดันทางทหาร เพื่อยับยั้งสิ่งที่จีนรู้ดีว่า อาจเป็นความพยายามของไล่ ชิงเต๋อที่จะใช้ประโยชน์จากช่องแคบ เพื่อรุกคืบและเปลี่ยนสถานะไต้หวัน

ในระยะยาว จีนจะใช้กลยุทธ์ดำเนินการมากขึ้น เพราะดีพีพีเป็นพรรครัฐบาลต่อในสมัยที่3 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วปักกิ่งจะคัดค้านดีพีพี ได้ขึ้นบริหารไต้หวันต่อไปอีก 4 ปีได้หรือไม่

 

  • ทีพีพี คุมเกมในสภานิติบัญญัติ

“แพม เคนเนดี้” รองผู้อำนวยการโครงการจีน กล่าวว่า การที่ ไล่ ชิงเต๋อจะเป็นประธานาธิบดีคนต่อไปของไต้หวัน เขาจะผ่านการรับรองในสภาได้หรือไม่นั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ในการทำข้อตกลงกับพรรคที่เล็กที่สุดในสภานิติบัญญัติ - พรรคประชาชนไต้หวัน (ทีพีพี)

สภานิติบัญญัติไต้หวันเป็นสภาเดียว มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 113 คน ซึ่งจำเป็นต้องได้เสียงข้างมาก 57 คนสำหรับพรรคเดียวจึงจะผ่านกฎหมายได้ ทั้งนี้ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 13 มกราคม พรรคดีพีพี มีที่นั่งข้างมากเพียง 61 ที่นั่ง

สิ่งที่ควรรู้คือ พรรคดีพีพีสูญเสียการเป็นเสียงข้างมากเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี โดยลดลงเหลือ 51 ที่นั่ง หรือน้อยกว่าสมาชิกพรรคก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) อยู่ที่ 52 ที่นั่งด้วยซ้ำไป ขณะที่พรรคทีพีพีได้ที่นั่งเพิ่มจาก 5 ที่นั่งเป็น 8 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคทีพีพี จึงเป็นหุ้นส่วนสำคัญของพรรคการเมืองใหญ่ ในการผ่านกฎหมายใดๆ

ผลการเลือกตั้งครั้งนี้เผยให้เห็นวิวัฒนาการทางการเมืองในไต้หวันที่น่าสนใจ เพราะเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติ ไม่ใช่พรรคที่คว้าตำแหน่งประธานาธิบดี

การได้รับความร่วมมือกับโก เวินเจ๋อ ผู้นำพรรคทีพีพี จะเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงอุปสรรคในสภาฯ แม้โกจะพ่ายแพ้ต่อการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่เขาเป็นศูนย์กลางของพรรคทีพีพี รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดจุดยืนนโยบายของผู้ทำหน้าที่บัญญัติกฎหมายจากพรรคทีพีพี

ดังนั้นจะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของโก เวินเจ๋อ เพราะเขาจะเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเมืองของไต้หวัน  แม้จะเป็นพรรคเล็กที่เป็นตัวแปรสำคัญในช่วง 4 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะต้องจับตาวันแรกของการประชุมสภาฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้

 

  • ชะตาไต้หวัน เสถียรภาพภูมิภาค

“แมทธิว เบอร์โรวส์” หน้าหน้าโครงการศูนย์วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ มองว่า ต้องใช้เวลาหลายเดือนที่จะทำให้เรารู้ว่า ชัยชนะของพรรคดีพีพี มีผลต่อความสัมพันธ์จีน - สหรัฐ และสันติภาพโลกอย่างไร แต่เราไม่ควรหยุดคาดการณ์ความเป็นไปได้ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด

ถ้ามองภาพรวมความขัดแย้งระหว่างประเทศ และภูมิภาค ปัจจุบันเพิ่มขึ้น 9 เท่านับตั้งแต่ปี 2547 เช่น สงครามอิสราเอล-ฮามาสในกาซ่า ซีเรีย ลิเบีย   และรัสเซีย-ยูเครน กลายเป็นประเด็นจุดความขัดแย้งไปทั่วและสร้างความเห็นที่แตกต่าง

ไล่ ชิงเต๋อ ผู้นำพรรคดีพีพีสัญญาจะรักษาอิสรภาพ ที่เป็นอยู่ของไต้หวัน แต่เขากลับล้มเหลวต่อการเป็นเสียงข้างมากในสภา ดังนั้นพรรคดีพีพีจะต้องพยายามหาแนวร่วมกับอีกพรรคหนึ่งที่เป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะเห็นคือ การเจรจากับพรรคทีพีพี ที่เป็นพรรคเล็กกว่า แต่พรรคนี้มีมุมมองต่อต้านจีนในระดับกลาง

ความปรารถนาอันแรงกล้าของไล่ ชิงเต๋อ ในการรักษาอิสรภาพของไต้หวันเป็นสิ่งที่รู้กันดี ซึ่งก่อนการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ให้คำมั่นจะปกป้องไต้หวันจากจีน นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้จีนแสดงอำนาจทางทหารเพิ่มขึ้นอีก พร้อมกับขู่จะใช้กำลังทหาร หากมีความจำเป็นเพื่อปกป้องเอกราชของไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ไต้หวัน อยู่ตรงกลางระหว่างสองมหาอำนาจสหรัฐ กับจีน ที่มีความหมายต่อความสัมพันธ์ และประโยชน์ที่ต่างกันไป

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ชาวไต้หวันจำนวนไม่น้อย กลัวจะตกเป็นเหยื่อของมหาอำนาจทั้งสหรัฐ และจีน นั่นเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นในคะแนนเสียงของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ของไล่ ชิงเต๋อหรือไม่

ที่มา : Stimson

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...