เรียนรู้...แล้วสู้กันต่อไป

เรียนรู้...แล้วสู้กันต่อไป

ของขวัญวันขึ้นปีใหม่ 2024 ที่แข้ง “ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น ถล่มทีมชาติไทย ซะขาดลอย 5-0  

ให้อะไรกับแข้งช้างศึกเราได้เยอะ...เลยทีเดียวครับ! 

โดยเฉพาะการประเดิมคุมทีมนัดแรกของกุนซือ “มาซาทาดะ อิชิอิ” ซึ่งหากไม่นับผลสกอร์ 

ภาพรวมของทิศทางการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่ปรากฎออกมา  

ถือว่าน่าจับตาเลยทีเดียว 

โดยเฉพาะการจัดผู้เล่นตัวจริง 11 คนแรก ที่โค้ชแดนปลาดิบกล้าเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ๆ 

ได้ลงไปปะทะแข้งกับยอดทีมเอเชีย

ทำให้เราได้เห็นถึงความต่างระหว่างครึ่งเวลาแรก กับ ครึ่งเวลาหลังอย่างชัดเจนที่สุด  

เป็นกระจกชั้นดีเลิศที่ทำให้โค้ชอิชิอิ...มองเห็นถึงแนวทางการพัฒนาทีมช้างศึกต่อไป

ว่าจะเลือกเดินทางไหน เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนกว่า ในวันข้างหน้า  

ความหวังของฟุตบอลไทยคือ “ชุดครึ่งแรก”ครับ 

ส่วนภาพสะท้อนของทีมลูกหนังไทยในปัจจุบัน ปรากฎให้เห็นใน “ชุดครึ่งหลัง” นั่นเอง!  

ซึ่งผมคงไม่ได้ลงไปชี้จำเพาะเจาะจงว่าใครดีไม่ดีอย่างไร 

เพราะเชื่อว่าตัวโค้ชเองก็น่าจะมองไม่ต่างกัน

กุนซืออิชิอิ เคยบอกไว้แล้วว่า “เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ คือพาทีมไทยไปฟุตบอลโลก”

“เพื่อให้ถึงขั้นนั้น แฟนๆควรมีการวิจารณ์ที่เข้มข้น ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา”

ดังนั้นเพื่อให้เป็นไปตามคำเรียกร้องของยอดโค้ชซามูไร 

ผู้เป็นความหวังใหม่ของแฟนลูกหนังชาวไทยทั้งประเทศ

วันนี้ผมเลยขอยกเอาความคิดเห็น (ที่สร้างสรรค์) ของคอบอลไทยบางส่วนในโซเชียล 

ที่เมนต์เข้ามาใน เพจ บี บางปะกง - Bebangpakong 

ถึงเกมอุ่นแข้งของทีมช้างศึก ซึ่งบุกไปโดน ขุนพลซามูไรบลูส์ ยิงสลุตซะราบคาบ ดังนี้ครับ... 

OOOOOOOO 

“มันต้องถึงเวลา ที่กล้าจะเปลี่ยนถ่ายนักเตะ บางตำแหน่งได้แล้ว จากรุ่นใหญ่ไปรุ่นน้องได้แล้วครับ วันนี้เห็นได้ชัดว่า ระบบการเล่นเรา มีทรง นักเตะรุ่นน้องบางคนเล่นดี เข้าระบบ จำเป็นต้องออก เพื่อหลบทางรุ่นใหญ่ แล้วผลที่ออกมา ก็คือคำตอบ เชียร์ต่อไป ครับ อย่างน้อย อิชิอิก็มีของ และกล้าดรอปซุปตาร์ จริงๆ”

“ยับ แต่ก็ไม่ผิดจากที่คาด เพราะเขาเหนือกว่าเราเยอะมาก อิชิอิน่าจะเห็นจุดบกพร่องพอสมควร รอดูว่าเอเชียนคัพจะเป็นเช่นไร ว่าแต่จะมีถ่ายทอดสดมั้ย เงียบจัง 555”

“ไทยต้องกล้าเปลี่ยนแปลงนักเตะ...จัดแบบครึ่งแรกดีเลย ไล่บอลไม่มีหมด วินัยเกมส์ดีเยี่ยม ครึ่งหลังพอเอาตัวเก๋าลงมา เจอเกมส์้เร็วระดับนี้ ให้ 30 นาทีก็หมดแรง กลางตัดบอลไม่ได้เลย หลังกับประตูเลยยับ”

“ยุโรป ยังโดน นับประสาอะไร เรา อย่าไป โทษนักเตะ เลย ครับ ระดับ ญี่ปุ่น เขาพัฒนา ไปไกลละ เราต้อง มานับ 1 เอาใหม่ ในทุกๆเรื่อง เริ่มจากภายใน คือ สโมสร ที่ต้องเอาจริงเอาจัง กับคำว่า นักเตะอาชีพ การ ฝึกซ้อม ระเบียบวินัย ตนเอง”

“เอาจริงๆ วันนี้คือไม่แปลกเลย ที่จะแพ้5-0 เพราะมันคนละระดับกัน เขามันระดับโลก ข้อดีวันนี้คือ เราได้เล่นกับทีมแบบนี้ ถือว่าดีสุดๆแล้ว”

“เกมส์นี้โค้ชอิชิตัดตัวทิ้งได้หลายคนเลย ถือว่าจะได้ชุดใหม่มาเล่นแล้วกัน”

“คิงออฟเอเชียกับคิงออฟอาเซียน มันช่างห่างชั้นกันเหลือเกิน นี่เค้ายังไม่ได้ใส่เต็มร้อยนะเนี่ย”

“ซ้อมแค่2 วัน ยังมีจังหวะได้ยิงได้เสียว ก็ถือว่าโอเคร ขนาดเยอรมันอดีตแชมป์โลกยังโดนล่อไป4ลูกเลย อย่าไปซีเรียสกลับมาซ้อมทำงานกกันต่อ ของจริงอยู่ที่เอเชี่ยนคัพนุ้น ต้องเจอกับอาหรับทั้งหมด ผมว่าสู้ได้แน่นอน”

“ยอมรับความจริงวันนี้..ดีกว่าอุปโลกตัวเองว่า..สู้เขาได้...ความห่างเยอะอยู่...พัฒนาต่อครับเพื่ออนาคต”

“ห่างเยอะ นี่เขายังวิ่งไม่เต็ม100นะ ยัง5-0 ถ้าคิดจะไปบอลโลกน่าจะยากเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว มันไม่ง่ายหรอก มีทางเดียวเป็นเจ้าภาพบอลโลกเลยได้ไปแน่ๆ”

“ความแข็งแรง เบสิคฟุตบอล เอาตรงนี้ให้ได้ก็น่าจะดี” 

“เหมือนเขาเข้าใจการวิ่ง ไม่มีตีตั๋วเปล่า กองหลังเราเห็นแล้ว แต่ไม่รู้จะตามใคร ญี่ปุ่นส่งแบบไม่ต้องมอง เป็นอะไรที่เดี๋ยวเพื่อนก็ต้องไปตรงนั้น โห..แล้วพี่แกอย่างเซียน เจอช่องเจอะบานเลย แทงเป็นทะลุ” 

“ถ้าสมาคมไม่เตรียมทีมให้ดีต่อไปจะห่างไปเรื่อยๆครับ ญี่ปุ่นเต็ง1แชมป์ เอเชี่ยนคัพ” 

“ชุดแรกเล่นดีแบบญี่ปุ่น ชุดสองลงเล่นเดินแบบตามสไตล์ไทยแลนด์บอลไทยวิถีไทย” 

“อุ้ม ตัง เลยจุดพีคมาแล้วอะ ระดับอาเซียนได้ ระดับเหนือกว่านั้นไม่ไหวละ”

OOOOOOOO 

สรุปว่า...ความพ่ายแพ้ถึงห้าเม็ดที่เกิดขึ้นนั้น  

“ทีมชาติไทย”มีแต่ได้กับได้ครับ 

อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่าระดับ “แชมป์อาเซียน” อย่างเรา 

มันห่างกับ “แชมป์เอเชีย” อย่างเค้า...มากแค่ไหน

ยอมรับ...แต่อย่ายอมแพ้ 

นี่คือประสบการณ์อันล้ำค่า ให้ฟุตบอลไทย ได้เรียนรู้

แล้วเดินหน้า...สู้กันต่อไปครับ !!! 

บี บางปะกง 
  [email protected]