งบฯผูกพัน ‘เศรษฐ1’ ประเดิมขึ้นเงินเดือนขรก.ใหม่ 10% งบเพิ่ม 8.8 พันล้าน/ปี

"รัฐบาลเศรษฐา 1" ภายใต้การนำของนายเศรษฐ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้มีแนวคิดเรื่องการปรับเงินเดือนข้าราชการ โดยมอบหมายให้ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการศึกษาร่วมกับสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงบประมาณศึกษาร่วมกัน

ทั้งนี้ผลการศึกษาที่นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ได้รับการเห็นชอบการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการพลเรือน (ก.พ.) โดยปรับขึ้นในส่วนของข้าราชการบรรจุใหม่ปีละ 10% ใน 2 ปีงบประมาณ ได้แก่ ปีงบประมาณ 2567 และ ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจะทำให้เงินเดือนของข้าราชการบรรจุใหม่อยู่ 18,000 บาทต่อเดือน ในปีงบประมาณ 2568 จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน โดยการเริ่มปรับฐานเงินเดือนข้าราชการจบใหม่ 10% จะเริ่มต้นในเดือน พ.ค.2567 หลังจากที่พ.ร.บ.งบประมาณ ประกาศใช้แล้ว 

การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการครั้งนี้ จะใช้งบประมาณในปีที่ 1 ปีงบประมาณ 2567 วงเงินประมาณ 7,200 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 ปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 8,800 ล้านบาท จากนั้นเงินเดือนข้าราชการที่ปรับขึ้นในส่วนนี้จะอยู่ในงบประมาณรายจ่ายประจำปีของแต่ละหน่วยงานราชการ แต่การดำเนินการในปีแรกงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้ 

ดังนั้นวงเงินที่ใช้จริงจึงใช้แค่ 5 เดือนเท่านั้น ส่วนงบประมาณช่วยเงินค่าครองชีพชั่วคราว ตั้งงบประมาณไว้ปีละไม่เกิน 3,000 ล้านบาท

สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อยที่รับราชการก่อนและยังไม่ถึงระดับชำนาญการ (C8) และยังมีเงินเดือนไม่ถึง 18,000 บาทต่อเดือน จะปรับฐานเงินเดือนให้สูงกว่าข้าราชการบรรจุใหม่ โดยช่วงที่ยังไม่ได้ปรับฐานเงินเดือนให้ข้าราชการที่เข้ามารับราชการก่อนและเงินเดือนยังไม่ถึง 18,000 บาท จะปรับขึ้นค่าครองชีพก่อน สำหรับข้าราชการที่เป็นระดับชำนาญการขึ้นไปหรือระดับ C9 ขึ้นไปจะไม่ได้ปรับขึ้นเงินเดือน

ทั้งนี้การปรับฐานเงินเดือนใหม่และรายได้ต่างๆ โดยข้าราชการบรรจุใหม่ทั้งระดับ ปวช. ,ปวส. ,ปริญญาตรี ,ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยให้หน่วยงานต่างๆ ไปดำเนินการตามที่ครม.อนุมติและเริ่มดำเนินการได้เลย เริ่มตั้งแต่ 1 พ.ค.2567

รวมทั้งตามผการศึกษาของสำนักงาน ก.พ.ที่เสนอให้ปรับขึ้น แบ่งเป็นกลุ่ม ดังนี้

1.การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่บรรจุใหม่ปรับเพิ่มให้ 2 กลุ่ม โดยให้ภายใน 2 ปี ปรับเพิ่มปีละ 10% ในปี 2567 และ 2568 โดยเงินเดือนจะปรับขึ้นขั้นในฐานเงินเดือนต่างๆดังนี้

ปวช. เงินเดือนปรับเพิ่มเป็น 11,380-12,520 บาทต่อเดือน ปวส. เงินเดือนปรับเพิ่มเป็น 13,920-15,320 บาทต่อเดือนผู้จบปริญญาตรี ปรับเพิ่มเป็น 18,150-19,970 บาทต่อเดือน ผู้จบปริญญาโทปรับเพิ่มเป็น 21,180-23,300 บาทต่อเดือน ผู้จบปริญญาเอกปรับเพิ่มเป็น 25,410-27,960 บาทต่อเดือน

 

2.การชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วยข้าราชการเดิมที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่าฐานของข้าราชการบรรจุใหม่ จะให้ปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเพื่อชดเชยย้อนหลังให้ได้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่วนเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวมีการปรับฐานเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวจากเพดานเดิมเพื่อไม่ให้เกิดการลักลั่นกับข้าราชการที่ทำงานมานานกว่า

รวมทั้งข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 13,285 บาท เดิมได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 13,285 บาท โดยจะปรับเพดานใหม่เป็นข้าราชการที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 14,600 บาท จะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวอีก 2,000 บาท แต่ไม่เกินเดือนละ 14,600 บาท

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีเงินเดือนต่ำกว่าเดือนละ 10,000 บาท เดิมได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท โดยปรับเพดานใหม่เป็น 11,000 บาท หากใครที่ได้รับเงินไม่ถึงจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว แต่ไม่เกินเดือนละ 11,000 บาท

นายแพทย์ พรหมมินทร์ เลิศสุริยเดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การขึ้นเงินเดือนข้าราชการของรัฐบาลนั้นยังเป็นไปตามนโยบายที่ต้องการให้ปรับเงินเดือนค่าราชการทั้งระบบ แต่ขั้นแรกจะปรับขึ้นตามที่ ก.พ.เสนอ และต่อไปจะขึ้นเงินเดือนระดับปริญญาตรีให้ถึงตามที่มีการหาเสียงไว้ที่ ไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน แต่จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไปในระยะเวลาอีก 2 ปีหลังของรัฐบาล

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...