‘โตชิบาทีวี’ ผงาดผู้นำทีวีดิจิทัลญี่ปุ่น ดันไทยโตตามรอย-ผุดแฟลกชิปสโตร์

“โตชิบา ทีวี” ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งประเทศญี่ปุ่น ที่มีประวัติศาสตร์การก่อตั้งมาร่วม 70 ปี ผ่านยุครุ่งเรืองและการเปลี่ยนแปลงมากมายหลายครั้ง กระทั่งปี 2561 โตชิบา ทีวี มีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่! ประเดิมใน “ญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นฐานวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) หลัก โดยวางแผนการทำตลาดและกลยุทธ์ใหม่ สามารถสร้างแบรนด์ โตชิบา ทีวี กลับสู่ช่วงเวลาที่รุ่งเรืองอีกครั้ง ก้าวสู่แบรนด์อันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นด้านปริมาณยอดขายในปี 2566 เป็นครั้งแรกที่สามารถครองผู้นำตลาดทีวีดิจิทัล นับตั้งแต่ประเทศญี่ปุ่นมีการเปลี่ยนผ่านสู่ทีวีดิจิทัล

ทัตซึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการแบรนด์ฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก บริษัท ทีวีเอส เรกซ่า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า โตชิบา ทีวี สามารถก้าวสู่ผู้นำตลาดในประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ จากปี 2561 มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับที่ 4 ของตลาดทีวี ผลจากการรีแบรนด์ใหม่ ทำให้ปี 2566 “โตชิบา ทีวี” ขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดทีวี ครองส่วนแบ่ง 24.32% ในช่วงครึ่งปีแรก และเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 25.82% วัดจากปริมาณการขาย (quantity) คาดว่าสิ้นปี 2566 จะขึ้นสู่ผู้นำตลาดทั้งปริมาณและมูลค่าการขาย (Value)

องค์ประกอบที่ทำให้ “โตชิบา ทีวี” สามารถกลับมาครองผู้นำตลาดทีวีในประเทศญี่ปุ่นได้อีกครั้ง มาจากปัจจัยสำคัญทั้งการมีโปรดักต์ทีวี ที่แตกต่างด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และกลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการรีแบรนด์ใหม่ ปรับร้าน “Toshiba TV” ใหม่ การขยายช่องทางออนไลน์ การเพิ่มช่องทาง YouTube เพิ่มช่องทางการขายใหม่ๆ การจัดโปรโมชั่น และความร่วมมือ หรือ Co-Branding กับคู่ค้า พันธมิตรต่างๆ สร้างพลังการตลาดร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

“โตชิบา พร้อมนำโมเดลความสำเร็จในประเทศญี่ปุ่นนำมาใช้ในประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของ โตชิบา ทีวี ที่จะเปิดเกมรุกเร่งทำตลาดครั้งใหญ่นับจากนี้”

ทัตซึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการแบรนด์ฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลก บริษัท ทีวีเอส เรกซ่า คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น

ประเดิมปักหมุดแฟลกชิปสโตร์ “Toshiba TV Premium” ที่โลตัส สาขารามอินทรา-อาจณรงค์ ลงทุนกว่า 2 ล้านบาท บนพื้นที่ 30 ตร.ม. คอนเซปต์ “Japanese Technology Premium Craftmanship” มีความเป็นพรีเมียมทั้งรูปแบบร้านและสินค้าเทคโนโลยีทันสมัยจากญี่ปุ่น นับเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในไทยและเป็นสาขาแรกในภูมิภาคอาเซียน

พร้อมระดมสินค้าทีวีรุ่นใหม่ กลุ่มไฮเอนด์ มีโปรดักส์ไฮไลต์ที่โดดเด่นทั้งภาพ เสียง ดีไซน์ ประกอบด้วย 1. TOSHIBA Z870 Quantum Dot 144Hz Mini LED TV โดดเด่นด้วย REGZA ZRi Engine กับเทคโนโลยี Mini-LED ความสว่างสูงสุด Quantum Dot Color และ Full Array Local Dimming PRO Z870M พร้อมจอแสดงผลแบบเนทีฟ 144Hz  ภาพลื่นไหลระดับพรีเมียม พร้อมระบบลำโพง 7 ทิศทาง BAZOOKA Bass Woofer Pro

2. TOSHIBA Z670 Quantum Dot 144Hz หรือเรียกว่า รุ่น “ทีวีเกม” ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมครั้งใหม่ และ 3. TOSHIBA M550M Quantum Dot 4K ที่ให้เสียงและภาพทรงพลัง 

“โตชิบา เชื่อมั่นตลาดประเทศไทย พร้อมขยายการลงทุนใหม่ๆ เปิดสาขาแห่งใหม่ในอนาคต ภายใต้กลยุทธ์หลักด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นคีย์สำคัญขับเคลื่อนแบรนด์และองค์กร ระยะยาวจะผลักดันให้โตชิบาก้าวสู่ผู้นำตลาดทีวีของไทย”

โตชิบา ทีวี แฟลกชิปสโตร์ Toshiba TV Premium แห่งแรกในอาเซียน ที่โลตัส สาขารามอินทรา-อาจณรงค์

สำหรับตลาดเมืองไทยมีการเติบโตอย่างโดดเด่นเช่นกัน เดือน ม.ค.-มิ.ย.2566 ขยายตัว 242% เทียบปีก่อน พร้อมสร้าง “Brand price index” ขึ้นอยู่อันดับที่ 4 ครองส่วนแบ่งการตลาด 3% ของตลาดรวมทีวี มั่นใจว่าจะขยับขึ้นเป็น 5% ในสิ้นปี 2566 จากการขยายฐานกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการดูทีวีและกลุ่มเกมเมอร์

พงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี ประจำ TVS REGZA Corporation Thailand Office กล่าวถึง ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในกลุ่มทีวีของประเทศไทยในปี 2566 ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลจากตลาดแข่งขันสูง มีความซับซ้อนมากขึ้น โดย โตชิบา มุ่งสร้างความแตกต่างด้วยเทคโนโลยีที่โดดเด่น เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบน พร้อมเน้นขยายทีวีจอใหญ่ตั้งแต่ 65 นิ้วขึ้นไป สอดรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงสามารถสร้างการเติบโตที่ดีในไทยต่อเนื่อง

พงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี ประจำ TVS REGZA Corporation Thailand Office

ปัจจุบัน โตชิบา ทีวี มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าในไทย 60 จุดผ่านเพาเวอร์บาย เพาเวอร์มอลล์ โฮมโปร และโลตัส ฐานลูกค้าหลักอยู่ใน กรุงเทพฯ 

ในครึ่งปีหลังมีแผนเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ให้ครอบคลุม 150 จุด พร้อมเปิดตัวทีวีรุ่นไฮไลต์ และสิ่งสำคัญที่น่าติดตามในปี 2567 “โตชิบา ทีวี” จะเป็นแบรนด์ผู้สนับสนุนการแข่งขัน European Cup 2024 ต่อยอดความสำเร็จจากในปี 2022 ที่โตชิบา ทีวี เป็นผู้สนับสนุน FIFA World Cup 2022 อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมสร้างแบรนด์สู่กลุ่มเป้าหมาย

ปี 2566 โตชิบา ทีวี ตั้งเป้าสร้างยอดขายรวม 700 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดในไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8%  ทะยานแตะ 10% ในปี 2568

“นับตั้งแต่ปี 2563 หลังการรีแบรนด์ใหม่ โตชิบา ทีวี สร้างการเติบโตที่ดีในไทย สู่เป้าหมายปี 2568 จะครองมาร์เก็ตแชร์ไม่น้อยกว่า 10% นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของ โตชิบา ทีวี ในประเทศไทย”

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ