‘แม็คกรุ๊ป’ พร้อมลุยลงทุน ย้ำศักยภาพแบรนด์ไทยโตแกร่ง

สำรวจตลาดสินค้าแฟชั่นและเครื่องแต่งกายในปี 2566 แข่งขันดุเดือด! แรงกระตุ้นมาจากการเปิดประเทศรอบใหม่ “ไทย” ในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทำให้มีแบรนด์ใหม่รุกทำตลาดไม่ขาดสาย แบรนด์เสื้อผ้าโยคะและเสื้อออกกำลังกาย “lululemon” ปักธงแฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

แบรนด์ฟาสต์แฟชั่น “ยูนิโคล่” ปรับโฉมสาขาเซ็นทรัลเวิลด์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงแบรนด์ระดับโลก “ลีวายส์” ประกาศแผนขยายสาขาใหม่รวม 20 สาขา เน้นร้านขนาดใหญ่ ทำให้สิ้นปีนี้ 2566 จะมีสาขาเปิดให้บริการในประเทศไทยรวม 150 สาขา นอกจากนี้ยังมีแบรนด์เสื้อผ้าที่โด่งดังในประเทศจีน “HLA” ผุดสาขาขนาดใหญ่ “HLA Concept Store” ที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์บางกะปิ

ท่ามกลางอินเตอร์แบรนด์เร่งเครื่องขยายสาขา แบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดไทยมาร่วม 49 ปีกับ “แม็ค” เดนิมที่อยู่ในใจของกลุ่มลูกค้าคนไทยมายาวนาน เป็นแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมาได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงเร็วและการแข่งขันเดือดขึ้นทุกปี 

เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป (MC) จำกัด (มหาชน) ฉายภาพสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นในช่วงปลายปีนี้มีทิศทางขยายตัวที่ดีจากการเข้าสู่ช่วงจับจ่ายไฮซีซันของลูกค้า แบรนด์ต่างๆ เร่งแผนทำตลาด ส่งผลดีต่อบรรยากาศและการใช้จ่ายโดยรวม

ภาพรวมยอดขายของบริษัทในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 ขยายตัวในระดับสองหลัก สอดคล้องกับยอดขายตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มาจากแผนเชิงรุกมุ่งขยายกลุ่มสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลาย นอกจากสินค้าเดนิม เรือธง! ได้เพิ่มกลุ่มเครื่องแต่งตัว ทั้ง กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า หมวก ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนสินค้าเดนิม 45% นอนเดนิม 55% 

พร้อมรุกขยายช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะ “TikTok” ทำให้ภาพรวมยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทะลุ 100 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน และมียอดขายมาจากช่องทาง TikTok ในสัดส่วน 60% คาดว่าแนวโน้มจะขยายตัวสูงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้

อีกกลยุทธ์สำคัญ คือ การมุ่งสร้างแบรนด์สู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ภายใต้ตำแหน่งทางการตลาดแบรนด์ “พรีเมียมแมส” กำหนดราคาที่ทุกคนจับต้องได้ รวมถึงมุ่งสร้างการจดจำที่ดีแก่กลุ่มลูกค้า ซึ่งมีการเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์นักแสดงไทยยอดนิยม “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” นำเสนอภาพลักษณ์ของแบรนด์ และเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์กว่า 100 คนในการทำตลาด 

ขณะที่แนวทางการสื่อสารแบรนด์ ไม่ได้เน้นเจาะตามอายุ แต่นำเสนอให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ทำให้ในปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มลูกค้ามาจากคนรุ่นใหม่ 70-80% และมีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 1.4 ล้านราย

ขณะเดียวกัน เร่งทำตลาดออฟไลน์กับสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศ 122 สาขา  ปีนี้เปิดเพิ่ม 10 สาขา ประสานพลังด้วยทีมงานฝ่ายขายในการร่วมผลักดันยอดขายแต่ละสาขา ทั้งยังมีช่องทางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า

ปีนี้ บริษัทยังได้ลงทุน 400 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ รองรับการกระจายสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าขยายสินค้าใหม่มุ่งสู่ “ไลฟ์สไตล์แบรนด์”

“ปิยะ โอฬารริกสุภัค” ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบัญชีและการเงิน กล่าวเสริมว่า ปี 2567 แม็คกรุ๊ป เตรียมงบลงทุนเบื้องต้น 100 ล้านบาทใช้ลงทุนระบบหลังบ้านต่างๆ รวม 50 ล้านบาท ที่เหลือใช้ขยายสาขา และการปรับปรุงสาขาต่างๆ ผลักดันการเติบโตระดับสองหลักต่อเนื่อง

“สิ่งที่ต้องทำควบคู่กันคือมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพ ดูแลต้นทุน รักษากำไรขั้นต้นให้ดีต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้กับสถาบันการเงินมานานแล้ว และมีกระแสเงินสด 1,675 ล้านบาท” 

ระบบหลังบ้านและหน้าบ้านที่แข็งแกร่ง ทำให้บริษัทพร้อมขยายโอกาสลงทุนใหม่ทั้งในและต่างประเทศหากทุกอย่างมีความพร้อม!

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...