ใช้คัมภีร์ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ สร้างความมั่งคั่ง ปี67

Key Points 

  • ปกติแล้ว บัฟเฟตต์จะตัดสินใจลงทุนกับธุรกิจที่เขามีความเข้าใจเท่านั้น โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการศึกษารายงานของบริษัท บัญชี และวิเคราะห์ทางการเงินหลายร้อยหน้า สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือช่วยให้บัฟเฟตต์ตัดสินใจลงทุน
  • ในโอกาสการลงทุนที่คุ้นเคย กลับเป็นเรื่องยากขึ้นสำหรับบัฟเฟตต์ เพราะนั้นหมายถึงจะทำอย่างไร ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นมากกว่าเดิม
  • สิ่งสำคัญ บัฟเฟตต์ไม่ได้ซื้อหุ้นเพียงเพราะราคาหุ้น แต่เขาพิจารณาจากมูลค่าหุ้น กล่าวคือ จะจ่ายซื้อหุ้น ก็ต่อเมื่อได้เทียบมูลค่าผลตอบแทนที่คิดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้

เมื่อใกล้ถึงสิ้นปีแล้ว หลายคนคิดวางแผนทางการเงิน เพื่อการลงทุนที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่งคั่งในปี 2567

แล้วความพยายามไหน จะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่ง “คริสโตเฟอร์ รูแอนน์” นักวิเคราะห์การเงินและตลาดของสหราชอาณาจักร กล่าวไว้ว่า ไม่ว่าจะมีเลือกทางใดๆ สำหรับผมจะใช้แนวทางของมหาเศรษฐีและนักลงทุนอย่าง “วอร์เรน  บัฟเฟตต์” ก็เพราะในปีหน้าได้ตั้งเป้าหมาย จะต้องสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวให้ได้

การลงทุนแบบบัฟเฟตต์

บางคนซื้อหุ้นโดยไม่เข้าใจธุรกิจนั้นๆ ขณะที่คนอื่นๆ นำเงินไปลงทุนกับหุ้นที่มีการเก็งกำไรสูง ซึ่งพวกเขาคิดว่าจะทำเงินให้ครั้งใหญ่ ขณะที่นักลงทุนบางคนลงทุนเพียงเล็กน้อยในหุ้นแต่ละตัว แต่จำนวนหลายหุ้น โดยหวังว่า อย่างน้อยที่สุดก็ทำรายได้กลับมาบ้าง

รูแอนน์ชี้ว่า นั่นไม่ใช่วิธีการลงทุนแบบบัฟเฟตต์แน่นอน เพราะเขาทำหลากหลายกว่านั้น ซึ่งมีแนวโน้มจะทุ่มการลงทุนจำนวนมากไปที่ 5 - 10 ไอเดียที่บัฟเฟตต์คิดว่า "น่าสนใจ" หลังผ่านการศึกษาจนเข้าใจธุรกิจนั้นๆ อย่างท่องแท้

ตรวจสอบก่อนลงทุนธุรกิจ

สิ่งสำคัญอยู่ตรงที่บัฟเฟตต์ลงทุนในธุรกิจที่มีความเข้าใจเท่านั้น ปกติแล้วเขาจะใช้เวลาหลายชั่วโมงไปกับการศึกษารายงานของบริษัท บัญชี และวิเคราะห์ทางการเงินหลายร้อยหน้า สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือช่วยให้บัฟเฟตต์ตัดสินใจลงทุน

"เพราะเขาไม่ได้ซื้อหุ้นเพียงเพราะราคาหุ้น แต่พิจารณาจากมูลค่าหุ้น กล่าวคือ บัฟเฟตต์จ่ายซื้อหุ้น ก็ต่อเมื่อได้เทียบมูลค่าผลตอบแทนที่คิดว่าจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้" รูแอนน์กล่าว

หลักการธรรมดา ให้ผลตอบแทนไม่ธรรมดา

ไม่มีสิ่งไหนที่กล่าวมาแล้วข้างต้น อาจดูเหมือนเป็นสิ่งใหม่ ขณะเดียวกันแนวคิดของบัฟเฟตต์ก็ไม่ใช่เรื่องปกติในหมู่นักลงทุน เปรียบเหมือนคัมภีร์ที่เสริมสร้างความมั่งคั่งมหาศาลในตลาดหุ้นให้กับเขา มาตลอดหลายทศวรรษ

แท้ที่จริงแล้ว บริษัทเบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ของบัฟเฟตต์ มีมูลค่าหุ้นในตลาดเฉลี่ย อยู่ที่ 19.8% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2508 หรือ 58 ปีก่อน เมื่อเวลาล่วงเลยถึงตอนนี้กำไรได้เพิ่มขึ้น 20% ต่อปี ถือว่ายอดเยี่ยม

ดีกว่าคำว่ายอดเยี่ยม

แต่ขณะนี้ เบิร์กเชียร์มีมูลค่ามากกว่าครึ่งล้านล้านดอลลาร์ บัฟเฟตต์จะสามารถใช้เงินทุนมหาศาลไปกับการลงทุนได้อย่างสบาย หากแต่การลงทุนในสิ่งที่คุ้นเคย เมื่อครั้งยังมีเงินน้อย  กลับเป็นเรื่องยากขึ้นสำหรับบัฟเฟตต์ เพราะนั้นหมายถึงจะทำอย่างไร ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นมากกว่าเดิม

หลายครั้งที่บัฟเฟตต์พูดเสมอว่า เขาสามารถได้ผลตอบแทนที่สูงกว่า หากเขาลงทุนด้วยเงินค่อยข้างน้อย เมื่อเทียบกับเงินที่เขาลงทุนในปัจจุบัน เช่นเดียวกับช่วงเริ่มต้นอาชีพนักลงทุนของบัฟเฟตต์ เพราะครั้งหนึ่งเมื่อปี 2508 มูลค่าหุ้นเบิร์กเชียร์ในตลาด เพิ่มขึ้นถึง 49.5% มาแล้ว   

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนหลายๆคน สามารถนำเงินจำนวนเล็กน้อยมาลงทุนในตลาดหุ้นได้ เพื่อให้ได้โอกาสที่เหนือกว่าบัฟเฟตต์ แต่สำหรับคริสโตเฟอร์ รูแอนน์ยังเห็นว่าแนวทางง่ายๆ แต่สร้างความมั่นงคั่งไม่รู้จบในสไตล์บัฟเฟตต์ ยังเป็นแนวทางที่ใช้ได้กับโลกการลงทุนปัจจุบันได้

ที่มา : TheMotleyFool

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...