สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดมองเศรษฐกิจโตไม่ชัด “ตลาดผันผวน - ธุรกิจเดินยาก”

นายทิม ลีฬหะพันธุ์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด(ไทย) จำกัด(มหาชน) กล่าวในเสวนา Economic Furum by Krungthepturakij : Thailand Crisis ? ว่า ในมุมของแบงก์มองว่า การที่เศรษฐกิจโลกและไทยเติบโตในลักษณะครึ่งๆ กลางๆ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลมากกว่าไครซิส ซึ่งการเติบโตแบบนี้ จะทำให้การดำเนินนโยบายในการดูแลเศรษฐกิจไม่ชัดเจน ก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดต่างๆ ซึ่งทำให้การคาดการณ์ด้านการลงทุนของธุรกิจต่างๆ ยากขึ้นไปด้วย

" ปีนี้ ปีหน้า เราคาดว่า น่ากังวลกว่าไครซิสคือ เราอยู่ในโลกครึ่งๆ กลางๆ เรามองปีนี้ ปีหน้าโต 2.7 - 2.9% หมายความว่า เศรษฐกิจโลกไม่ได้ถดถอย แต่โลกไม่โต                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                       โดยสหรัฐค่อยๆ ชะลอ จีนเองโตไม่ถึง 5% ยุโรปไม่โตเลย โลก และไทยแบบนี้ นโยบายในการดูแลเศรษฐกิจก็จะไม่ชัดเจน โลกจะขึ้นดอกเบี้ยต่อไหม หรือลดดอกเบี้ย ก็ไม่แน่ใจ ยกตัวอย่าง นโยบายการคลังของเรา บางคนก็ซัพพอร์ตแนวคิดการกระตุ้น บางคนก็บอกไม่จำเป็น ซึ่งผมคิดว่า เกิดจากโลกที่เศรษฐกิจไปเรื่อยๆ”

ทั้งนี้ หนึ่งในผลลัพธ์ที่เศรษฐกิจโตไม่ชัดเจนคือ ตลาดการเงิน ตลาดบอนด์ ที่ผันผวนมาก โดยตลาดบอนด์นั้น ยีลด์ในแต่ละวันขึ้นและลงมาก ส่วนตลาดเงินนั้น ค่าเงินบาทเมื่อต้นปีอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์นิดๆ ปรับไปอ่อนสุดที่ 38 บาท วันนี้อยู่ที่ 35.7 - 35.8 บาท ซึ่งความผันผวนดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เพราะแทนที่จะโฟกัสเรื่องการทำธุรกิจอย่างเดียว ก็ต้องมาติดตามตลาดเงินอย่างใกล้ชิดด้วย

"หากภาพเศรษฐกิจชัด เช่น เศรษฐกิจโลกชะลอ มันก็จะชัดเจนว่า ดอกเบี้ยจะลง ซึ่งมีเทรนด์ที่ชัดเจน แต่เมื่อเศรษฐกิจไม่ชัด หลังจากที่เราขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 2 ปี บางส่วนของตลาดก็เชื่อว่า ปีหน้าดอกเบี้ยจะลดเยอะ บางส่วนบอกไม่เยอะ เป็นต้น"

สำหรับการเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ปีหน้า เราก็มองว่า เศรษฐกิจไทยโตไม่ถึง 3% เศรษฐกิจโลกไม่ถึง 2% ฉะนั้น ความมั่นใจยังไม่มี และคิดว่า เราควรโตได้มากกว่านี้ เพราะการโตในปัจจุบันเป็นการโตจากฐานที่ต่ำ 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ