รมว.อว.ลุยสางปมพิพาทจุฬาฯ-อุเทนฯ ต้องคำนึงกฎหมายคู่ความรู้สึก

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2566 เวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อพิพาทระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย เรื่องการย้ายอุเทนถวายออกจากพื้นที่ ว่า ได้รับรายงานจากที่ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนยุติข้อพิพาทการย้ายมหาวิทยาลัยที่มีปลัดกระทรวง อว.เป็นประธานเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ว่า บรรยากาศในการประชุมเป็นไปด้วยเหตุและผล ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ทุกอย่าง ซึ่งมีข้อเสนอ 2 ทางเลือก โดยมีการเสนอให้ไปศึกษาก่อนว่าข้อเสนอที่เสนอมานั้นเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการประชุมครั้งต่อไปคงจะมีข้อสรุปกันต่อว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเป็นไปได้จะเดินต่ออย่างไร ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ต้องหาแนวทางใหม่ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จุดยืนนักศึกษาอุเทนถวาย ถึงอย่างไรก็ไม่ออกจากพื้นที่ตรงนั้นใช่หรือไม่ น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า เท่าที่ฟังไม่ถึงขนาดนั้น เพียงแต่นักศึกษาอุเทนถวายต้องการภาพที่ชัดเจน โดยบอกว่าเคยมีเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นมาหลายครั้งแล้ว เพราะฉะนั้นครั้งนี้นักศึกษาจึงกลัวว่าเมื่อตกลงไปแล้วถึงเวลาก็จะไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ นักศึกษาต้องการความชัดเจนว่าก่อนที่เขาจะเรียนจบจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หรือเขาต้องไปอยู่ที่ไหนอย่างไร ใครจะดูแลแบบไหนอย่างไร เขาไม่รู้ว่าในอนาคตบทสรุปจะเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า ไทม์ไลน์การเจรจา จะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่ น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า เราคงไปกำหนดแบบนั้นไม่ได้ เพราะการไปตีกรอบก็เหมือนกับยิ่งไปเพิ่มอารมณ์ความรุนแรง เพียงแต่ตอนนี้ทุกคนอยากได้ข้อยุติที่เร็วที่สุด 

เมื่อถามถึงรุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้วแต่ยังมาสนับสนุนรุ่นน้องให้ดำเนินการแบบนี้อยู่ น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ในวงหารือเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ก็มีศิษย์เก่ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย ซึ่งได้มีข้อเสนอว่าเมื่อปัญหายังคาราคาซังแบบนี้ จึงอยากรับฟังจากอุเทนถวายว่าต้องการอะไรบ้าง และทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถสนับสนุนข้อเสนอนี้อย่างไรได้บ้าง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าถ้าอุเทนถวายเห็นภาพชัดว่าทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ที่คืนไปแล้วไม่ได้เอาไปใช้ในเชิงพาณิชย์ แต่เอาไปใช้เป็นสาธารณประโยชน์ อาจจะเป็นสวนสาธารณะหรือพิพิธภัณฑ์สำหรับเด็กเพื่อการศึกษาเหมือนกับหอศิลป์ใน กทม. แบบนี้อาจจะเป็นข้อเสนอใหม่ที่ทางอุเทนถวายอาจจะพิจารณาได้ ซึ่งน่าจะเป็นแนวโน้มที่ดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหานี้จะสามารถจบได้ในยุคนี้หรือไม่ น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ปัญหานี้มีมานานแล้ว คงไม่ใช่ใช้คำว่าจบ แต่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ และบังเอิญว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านไม่มีคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดมา ซึ่งมีการฟ้องร้องกันมาเรื่อยๆ ยุคนี้ทุกฝ่ายต้องถือเอากฎหมายสูงสุด เพียงแต่ไม่สามารถยึดหลักกฎหมายอย่างเดียวได้ แต่ต้องยึดหลักความสงบเรียบร้อยและต้องดูแลความรู้สึกของบุคลากรทุกคนในอุเทนถวายด้วย เพราะเราคงไม่อยากเห็นสถาบันที่ร่ำเรียนมาหายไปในช่วงข้ามคืน ดังนั้น เรื่องความรู้สึกของคนเป็นเรื่องใหญ่ไม่แพ้เรื่องของหลักกฎหมาย จึงต้องเป็นการบังคับใช้กฎหมายโดยสมัครใจ และทุกคนเห็นตรงกัน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...