บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ชี้จังหวะดีทยอยลงทุนระยะยาวใน ‘หุ้นไทย - เอเชีย’

นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์  กล่าวในงานกิจกรรมงาน Health & Wealth Expo 2023 "Investment Outlook การลงทุน 2024"  ถึงมุมมองภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุนว่า สำหรับเศรษฐกิจโลกไตรมาส 4 ปีนี้ มีแนวโน้มชะลอลงแรงขึ้น ขณะที่ปี 2567 เศรษฐกิจบางประเทศอยู่ในภาวะถดถอย โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐ 

ปัจจุบันหากมองในแง่ร้าย ถือว่า เศรษฐกิจโลกยังไม่ผ่านจุดต่ำสุด แต่คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะสดใสขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยเฟด เราคาดว่า เฟดมีโอกาสคงดอกเบี้ยมีมากขึ้น แต่การปรับลดดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจนแต่น่าจะเกิดขึ้นแน่ในปีหน้า ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อชะลอตัวลง

ทางเศรษฐกิจยุโรป ในปีหน้ามีโอกาสชะลอตัวลง จากยังมีแรงกดดันเงินเฟ้อ  ขณะที่เศรษฐกิจจีนยังสร้างความผิดหวังนักลงทุนไม่ได้เติบโตดีอย่างที่คาด เหมือนจะผ่านจุดต่ำสุดเชิงวัฏจักร แต่ยังเปราะบาง คาดว่า ปีหน้าเติบโต 4.7 - 4.8% ยังคงน้อยกว่าปีนี้ คาดว่ายังเติบโต 5% 

ส่วนเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโต 2.7% และปีหน้าเติบโต ถึง 4.1% หากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐรวมการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต  10,000 บาท แต่หากไม่ทำโครงการดังกล่าว คาดว่าจะเติบโตได้ระดับ  3% กว่า 

ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส มองว่า หากขยายวงกว้าง จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน มีโอกาสปรับขึ้นไปแตะระดับ 90 - 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือทะลุ100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจุบันยังทรงตัวที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งยังคงเป็นความเสี่ยงต้องติดตามผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และการลงทุน ในระยะต่อไป 

นายสุกิจ กล่าวต่อว่า ทางด้านการลงทุน ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงหุ้นไทยจะมีจังหวะสดใสขึ้น เมื่อเศรษฐกิจต่ำสุดดอกเบี้ยปรับลดลง มองว่า ในช่วงรอยต่อครึ่งปีหลังของปีหน้า จะเป็นจังหวะการลงทุนตลาดหุ้น  

ส่วนขณะนี้ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวลง เป็นเพราะวิกฤติของศรัทธา  หากพิจารณาทางด้านผลตอบแทนตลาดหุ้นโลกปี 2566 พบว่า ยังมีตลาดหุ้น จีน และฮ่องกง ที่ปรับตัวลงเช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นไทย  

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนหุ้น นายสุกิจ  มองว่า ตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่ พบว่าพีอีใกล้เคียงระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จึงเป็นจังหวะที่ดีของนักลงทุนระยะยาว 

โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย  เป็นจังหวะที่ดีของนักลงทุนระยะยาว  เน้นการเลือกหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ และเงินปันผล  เนื่องจากนักวิเคราะห์ในตลาด คาดการณ์ทิศทางกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปีหน้า มีแนวโน้มเติบโต 15% จากปีนี้ ซึ่งขณะนี้กำลังปรับตัวดีขึ้น 

แม้ว่าราคาหุ้นลง สวนทางปัจจัยพื้นฐาน  กลุ่มธุรกิจที่มีกำไรเติบโตดี ยังมาจากกลุ่มพลังงาน ธนาคาร อสังหาฯ ภาคบริการ  ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่ ไม่กระทบจากความกังวลบริษัทกลาง และเล็กมีกำลังมีปัญหาขาดสภาพคล่อง และอาจล้มละลายเพิ่มขึ้นในปีหน้า 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ