วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TU ธุรกิจหลักจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง

โดยคาดว่ายอดขายในธุรกิจการดูแลสัตว์เลี้ยงจะเพิ่มขึ้น 25% QoQ จากการฟื้นตัวของยอดขายให้ลูกค้า OEM ในสหรัฐ และ ยุโรป ในขณะที่คาดว่ายอดขายในธุรกิจ valueadded (+11% QoQ) จะเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตใหม่ของโรงครัวแห่งใหม่ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่า TU จะบันทึกกำไรจากอัตาแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น หลังจากที่บันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 268 ล้านบาทใน 3Q66 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า GPM จะลดลงเล็กน้อย เพราะ GPM ของ
ธุรกิจอาหารแช่แข็ง และแช่เย็นลดลงจากการที่ราคากุ้งสูงขึ้นตามฤดูกาล และ GPM ของธุรกิจ valueadded ลดลงจากการเริ่มเปิดดำเนินการโรงงานแห่งใหม่

 

Red Lobster มีแนวโน้มจะขาดทุนหนักกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้

Reb Lobster (RL) ออกโปรโมชันใหม่ใน 3Q66 (Ultimate Endless Shrimp) เพื่อรับมือกับการบริโภคที่ชะลอตัวลงในสหรัฐ อย่างไรก็ตาม แคมเปญนี้ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง และทำให้ขาดทุนหนักกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้น บริษัทจึงปรับราคาของโปรโมชันนี้ใหม่ และคาดว่าผลขาดทุนจาก RL จะลดลง QoQ ใน 4Q66F อย่างไรก็ตาม TU ปรับประมาณการผลขาดทุนจาก RL (การดำเนินงาน และ ค่าเช่า) ขึ้นอีก 200 ล้านบาท เป็น 1,085 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงธุรกิจในปีหน้า TU ได้จ้างที่ปรึกษาเพื่อวางกลยุทธ์การพลิกฟื้นธุรกิจ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปี 2567

 

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F-2567F ลง 4-5%

เราคาดว่าผลประกอบการของ TU จะฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2567F อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F ลง 5% เหลือ 4.69 พันล้านบาท และปี 2567F ลง 4% เหลือ 5.76 พันล้านบาท เพื่อสะท้อนถึง i) ผลขาดทุนของ RL ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.1 พันล้านบาททั้งในปีนี้ และ ปีหน้า (จากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุน 900 ล้านบาทในปีนี้ และ 800 บาทในปี 2567F) และ ii) ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น 2% ในปี 2566F และ 16% ในปี 2567F

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ TU แต่ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2567 ลงเหลือ 18.60 บาท จาก 19.40 บาท อิงจาก PER ที่ 15.2x (PER เฉลี่ยระยะยาว) เรายังคงเลือก TU เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากธุรกิจหลักยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันไม่แพง โดยคิดเป็น PER ปี 2567F ที่ 11.8x ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจ (3.8% ในปี 2566F และ 4.8% ในปี 2567F)

Risks

ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น, อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...