TU ไตรมาส3/66 กำไร 1.2 พันล้าน วูบ52.3% - หั่นเป้ารายได้ปีนี้ลดลง10-12%
วันที่ส่ง: 06/11/2023 - ผู้เขียน: กรุงเทพธุรกิจ
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU เปิดเผยว่า ไตรมาส3 ปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท ลดลง 52.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2.53 พันล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากรายการที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินการตามปกติของธุรกิจ ได้แก่ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 268 ล้านบาท (เทียบกับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 792 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2565)
รวมถึงผลกระทบจาก Dilution effect ของบริษัท ITC เท่ากับ 324 ล้านบาท ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยเครดิตภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมลดลง อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น จากไตรมาสก่อน ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่2 ติดต่อกัน จากกำไรขั้นต้น และกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยมีอัตรากำไรสุทธิอยุ่ที่ 3.6%
สำหรับรายได้ไตรมาส3 ปี 2566 อยู่ที่ 3.39 หมื่นล้านบาท ลดลง 16.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 4 หมื่นล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากปริมรณการขายลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ รายได้จากค่าขนส่งที่ลดลงและราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง
สำหรับเป้าหมายผลดำเนินงานปี 2566 บริษัทตั้งเป้ายอดขายลดลง 10-12% จากเดิมที่คาดว่าจะลดลง 5-6% จากปี 2565 อัตรากำไรขั้นต้นประมาณ 16.5-17.5% สัดส่วน SG&A ต่อยอดขาย ประมาณ 11-12% รวมถึงปรับลดงบลงทุนปีนี้เหลือประมาณ5-5.5 พันล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 5.5-6 พันล้านบาท
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ กำลังซื้อของผู้บริโภคทั่วโลกอ่อนแอลง ซึ่งเป็นผลของการชะลอตัวของเศรษฐกิจและราคาพลังงานที่สูงขึ้นอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากราคาพลังงาน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ราคาพลังงาน ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของยุโรปมีแนวโน้มอ่อนตัวลงในเดือนก.ย.
โดยคาดว่ามีผลกระทบเชิงบวกต่อยุโรป เนื่องจากกำลังซื้อกลับมาบางส่วน นอกจากนี้แนวโน้มความต้องการซื้ออาหารทะเลแปรรูปเพิ่มขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากอาหารแปรรูปถือเป็นสินค้าที่ราคาไม่แพง อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในสหรัฐเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบเชิงลบต่อบริษัท จากความต้องการซื้อที่ลดลง โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร
ทั้งนี้บริษัทมีกลยุทธ์ในการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มผลกำไรของกลุ่มบริษัท คือ มาตรการป้องกันกำไร เพื่อเพิ่มอัตราการทำกำไร มาตรการป้องกันความเสี่ยงอยู่เสมอ เพื่อลดความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน และดำเนินการติดตามสิ่งแวดล้อมระดับมหาภาคอย่างสม่ำเสมอ ความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทาน และความไม่แน่นอนของการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกในตลาดหลักของบริษัท
คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ
‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง
จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...
Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%
Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...
ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด
เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...
‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ
วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...
ยอดวิว