วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก เฟดคงดอกเบี้ย

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,379.96 จุด -1.87 จุด -0.14% มูลค่าการซื้อขาย 38,091 ลบ. ต่างชาติ -718.25 ลบ. TFEX +5,012 สัญญา ตราสารหนี้ -4,509.66 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 221.71 จุด หรือ +0.67% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 1.6% หลัง FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และการแสดงความเห็นของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดทำให้นักลงทุนมีมุมมองบวกว่า FED เสร็จสิ้นภารกิจการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
+ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ FED มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี และเป็นไปตามคาด
+ ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 46.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 49.0 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.2
+ การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 113,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 130,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 89,000 ตำแหน่ง ในเดือนก.ย.
+ บอร์ดอีวีเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ อีวี 3.5 เป็นเวลา 4 ปี (2567-70) โดยรัฐจะให้เงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตามประเภทของรถและขนาดของแบตเตอรี่ ระหว่าง 50,000-100,000 บาทต่อคัน มีแผนเสนอให้ ครม. พิจารณาภายใน พ.ย.นี้

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 58 เซนต์ หรือ -0.7% ปิดที่ 80.44 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ รวมทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
- PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.0 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. และสอดคล้องกับตัวเลขเบื้องต้น
 

- ญี่ปุ่นส่งสัญญาณแทรกแซงตลาด FX หลังเยนทำนิวโลว์ 1 ปีโดยทรุดตัวลง 1.7% แตะระดับ 151.74 เยน/ดอลลาร์วานนี้
- กกร. ปรับประมาณการส่งออกใหม่สำหรับปี 2566 จากเดิม -0.5 ถึง -2% เป็น -1 ถึง-2% เพราะกำลังซื้อของครัวเรือนไทยเริ่มแผ่วลง นักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 28-29 ล้านคนน้อยกว่าประมาณการเดิมที่ 29-30 ล้านคน

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลง หลังจากเฟด มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,370-1,390 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO
• งบ 3Q23 ออกมาดีกว่าตลาดคาด : KBANK BBL KTB TTB
• คาดงบ 3Q23 ดี : XO SPA

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SAFE - บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป
SET / หมวดการแพทย์
ราคา IPO 21 บาท ราคาเหมาะสม consensus 23.47-25.00 บาท

•กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจศูนย์การแพทย์เพื่อรักษาผู้มีบุตรยากครบวงจรด้วยวิธี ICSI การแช่แข็งเก็บรักษาเซลล์ไข่ อสุจิ และตัวอ่อน การให้บริการตรวจวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนและทารกในครรภ์ รวมถึงห้องปฏิบัติการด้านพันธุศาสตร์มีประสบการณ์มากกว่า 22 ปี โครงสร้างรายได้หลักราว 79% จากการให้บริการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยวิธี ICSI รายได้จากบริการตรวจพันธุกรรม 20% อัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์เฉลี่ย 40-75%บริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานคลินิกเด็กหลอดแก้วแห่งแรกของประเทศไทยจากสถาบัน Reproductive Technology Accreditation Committee (RTAC) ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ปัจจุบันมี 5 สาขาใน กทม. และจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

•ปี 65 มีรายได้ 727 ล้านบาท +30%YoY กำไรสุทธิ 162 ล้านบาท +107%YoY งวด 6M66 มีรายได้ 407 ล้านบาท +9%YoY และกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท -4%YoY เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายอื่นในการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และค่าใช้จ่ายภาษีที่เพิ่มขึ้นจากการรับเงิน ปันผลจาก NGG ซึ่งประมาณการทางภาษีจะลดลงกลับสู่ระดับปกติ

•จำนวนหุ้น IPO 76,748,600 หุ้น คิดเป็น 25.25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นเพิ่มทุน 23,947,800 หุ้น และหุ้นเดิมของ Piccadilly Peak Limited 52,800,800 หุ้น มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 6,382.90 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น Historical P/E 35.76x เทียบกับ P/E ของ Peers ได้แก่ EKH 10.09x PR9 24.55x GFC 30.55x BCH 123.82x

•เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ ขยายสาขาและให้บริการด้านห้องปฏิบัติการ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

หุ้นมีข่าว

(+) ADVANC (Bloomberg consensus 253.50 บาท) มั่นใจ ARPU โค้งสุดท้ายดีดตัวสอดคล้องการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันทางธุรกิจทั้งปริมาณนักท่องเที่ยวที่เร่งตัวขึ้น และความสำเร็จของการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าคุณภาพ ย้ำพร้อมทำ Transaction หุ้น TTTBB เสร็จภายใน 2 สัปดาห์ หากบอร์ดกสทช.เคาะดีลควบรวม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DELTA (Bloomberg consensus 75.00 บาท) วางเป้ารายได้ปี 2567 โตสองหลัก จากธุรกิจอีวีที่แนวโน้มเติบโตสูง ดาต้าเซ็นเตอร์โตในระดับปานกลาง สถานการณ์การขาดแคลนวัตถุดิบดีขึ้น ระวังปัจจัยเสี่ยงดอกเบี้ยขาขึ้น ภาวะเงินเฟ้อ สงคราม วางงบลงทุนปีหน้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DOHOME (Bloomberg consensus 11.70 บาท) มองยอดขายในเดือนตุลาคม 2566 กลับมาเป็นบวก เข้าสู่ช่วงไฮซีซันการจับจ่ายใช้สอยและซ่อมบำรุง ตกแต่งที่พักอาศัย หนุนยอดขายโดยรวมเติบโตได้แบบตัวเลขสองหลัก ด้านมาร์จิ้นในไตรมาส 4/2566 คาดขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน ยืนเหนือระดับ 16-17% ได้ต่อ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NRF (Bloomberg consensus 4.30 บาท) เปิดแผนธุรกิจปี 2567 ตั้งเป้ายอดขายสนั่นโต 30-50% นา "BAMBOO MART" เข้า NASDAQ ภายในครึ่งปีแรก อัพกำลังการผลิตโรงซอส ลุยตลาดยุโรป สหรัฐ เพิ่มไลน์การผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ขยายร้านซูเปอร์มาร์เก็ต อีก 5 แห่ง รองรับการขาย ส่วนโรงงาน PlantBased ร่วมกับ PTT เปิดเชิงพาณิชย์ต้นปี 2567 ชูโอกาสเติบโต (ที่มา ทันหุ้น)

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘อีลอน มัสก์’ หนุน ‘ทรัมป์’ พนักงานบริจาคให้‘แฮร์ริส’

ข้อมูลจากโอเพนซีเคร็ตส์ องค์กรไม่หวังผลกำไรไม่แบ่งฝักฝ่าย ผู้ติดตามข้อมูลการบริจาคเงินหาเสียงและการล...

สหภาพแรงงาน Teamsters ไม่หนุน'ทรัมป์-แฮร์ริส'

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สหภาพแรงงานทีมสเตอร์สมีสมาชิกกว่า 1.3 ล้านคน เป็นตัวแทนของกลุ่มคนขับรถบร...

ครึ่งแรกปี67จีนครองแชมป์ซื้อคอนโดเมียนมาซิวเบอร์สองแซงรัสเซีย2ปีซ้อน

วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป...

อสังหาฯ แบกสต็อกอ่วม 1.57 ล้านล้าน เอ็นพีแอลพุ่ง ‘ทุกตลาดติดลบหนัก’

นายกสมาคมอาหารชุด หวังเร่งแก้นอมินีต่างชาติในตลาดบ้านมูลค่า 1 ล้านล้านบาท จัดเก็บภาษี หวังแบงก์ชาติล...