การเมืองเขย่าแสนสิริ!เปิดใจ‘อภิชาติ จูตระกูล’รักษาการซีอีโอแสนสิริ

กระแสความแรงซีรีย์แฉเพื่อชาติของ'ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์' ที่ออกมาแถลง การซื้อขายที่ดินของแสนสิริ ช่วง'เศรษฐา ทวีสิน'เป็นซีอีโอแสนสิริ ใช้นอมินีซื้อที่ดินปล่อยกู้1,000ล้านให้รปภ.กลายเป็นดราม่าสะเทือนยังบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จนต้องออกหนังสือชี้แจงรายถึง2 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถสยบดราม่าได้แถมยังมีต่อในอีพีส่งท้ายก่อนผู้อำนวยการสร้างจะบินไปรักษาตัวอังกฤษในวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.นี้ก่อนวันอังคารที่22 ส.ค.ที่รัฐสภาจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) รักษาซีอีโอแสนสิริ  ได้ออกมาชี้แจงว่า ก่อนการอนุมัติจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ แต่ละแปลงจะมีบริษัทสรรหาที่ดินที่มีความเชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบข้อมูลขั้นต้น และข้อมูลรายละเอียดของที่ดินก่อนที่นำมาเสนอขาย ทั้งในรูปแบบของบริษัทลูก หรือบริษัทภายนอก เพราะการซื้อขายที่ดินในวงการอสังหาฯของบริษัทขนาดใหญ่ดำเนินการเหมือนแสนสิริ กล่าวคือ ซื้อขายผ่านบริษัทตัวกลางที่ทำหน้าที่เคลียร์ปัญหาที่ดิน 

ซื้อที่ดินผ่านตัวกลางบริหารความเสี่ยง

ทั้งนี้เนื่องจากที่ดินทุกแปลงมีปัญหาหมด ไม่ว่าจะเป็นเส้นรังวัด  ลำราง เจ้าของ ผู้ครอบครอง มีปัญหาหมด บริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ส่วนมากจึงะให้บริษัทตัวกลางเป็นคนไปเคลียร์ปัญหาก่อนมาขายที่ดินไม่เช่นนั้นซื้อไม่ได้เพราะต้องนำเข้าบอร์ด ซึ่งเป็นหน้าที่ของตัวกลางที่ต้องเข้าไปเคลียร์ปัญหา ซึ่งเป็นวิธีการบริหารความเสี่ยงในการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง 

เพราะที่ทุกแปลงไม่เหมือนกัน เจ้าของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ปัญหาไม่เหมือนกัน มีปัญหา 108 ปัญหา  ในฐานะคนพัฒนาโครงการอสังหาฯจึงต้องตัดปัญหาเหล่านี้ออกไปให้คนกลางทำหน้าที่แก้ปัญหา เช่น  หาที่อยู่ใหม่ให้กับคนที่ออกจากที่ดินนั้นๆ  หรือบางที่เจ้าของมีหลายคนไม่ได้เป็นพี่น้องกัน ก็ต้องตามหาให้ครบก่อนที่นำมาขาย เพราะถ้าแสนสิริดำเนินการเองไม่มีเวลาไปพัฒนาโครงการออกมา ส่วนคนขายกับเจ้าของที่จะมีวิธีการในการดำเเนินการอย่างไรนั้น'ไม่ใช่'เรื่องของแสนสิริ 

" รู้อย่างเดียวว่าเราซื้อมาถูกต้อง โดยผ่านมืออาชีพที่ต้องทำหน้าที่เคลียร์ทุกอย่างให้ถูกต้องไม่เช่นนั้นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯอย่างแสนสิริซื้อไม่ได้เพราะผมไม่ได้ทำแปลงเดียวผมทำทีเป็น100แปลงเพื่อนำมาพัฒนาโครงการปีละ30-40โครงการเวลาที่แสนสิริซื้อที่ดินจะซื้อในเวลาที่เหมาะสม ในราคาที่พัฒนาโครงการได้ไม่ได้ซื้อล่วงหน้า เพราะต้องการนำพัฒนาโครงการเพื่อขายไม่ใช่ซื้อมาเก็งกำไร"

ไม่เกี่ยวข้องคนขายกับเจ้าของที่ดิน

นายอภิชาติ กล่าวว่ากรณีการซื้อขายที่ดินทองหล่อให้กลับไปดูว่าเราซื้อในราคาเท่าไรแล้วพัฒนามาขายในราคาเท่าไรไม่มีใครที่อยากจะขายที่ดินที่ทองหล่อในราคา 600,000บาทต่อตร.วาหรอก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมขายในราคานั้นเพราะต่ำกว่าราคาตลาดมาก ส่วนวิธีบริหารจัดการของคนขายแล้วแต่คนเราเป็นแค่คนซื้อไม่เกี่ยว ไม่รู้เรื่อง จะให้ผมอธิบายหรือตอบแทนเขาไม่ได้เป็นมารยาทที่ไม่ควรไปก้าวล่วงไม่เช่นอีกหน่อยไม่มีใครกล้ามาซื้อที่ให้แสนสิริ 

"ซึ่งที่ดินที่แสนสิริซื้อมาถูกต้อง ในราคาที่เหมาะสม สามารถนำมาพัฒนาโครงการต่อได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่เกี่ยวกับแสนสิริ ผมเป็นแค่คนซื้อไม่ใช่คนขายที่ดิน"

 แจงไม่ได้ปล่อยกู้รปภ.

 ส่วนกรณีที่แสนสิริไปปล่อยกู้ให้  รปภ.ไม่เป็นความจริง  ตนไม่เคยเซ็นให้เงินกู้กับรปภ. ส่วนการจดจำนองเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาจะซื้อจะขายของผู้ขาย ซึ่งวงเงินจำนวน 1,000 ล้านบาท เป็นวงเงินที่ครอบคลุมราคาที่ดิน และค่าเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ปฏิบัติตามสัญญาของผู้ขาย ซึ่งทางแสนสิริชำระเงินค่าที่ดินให้แก่ บริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัดแล้วหลังจากได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญา

"เขาจดจำนองให้เราหมายความว่าเราได้สิทธิไม่ได้หมายความว่าเราเอาเงินไปให้เขา ส่วนกรณีความเกี่ยวข้องคนที่ถือหุ้นผม (ทศพงศ์ จารุทวี) ซึ่งส่วนตัวรู้จักกันมานานเขาเคยทำธุรกิจอสังหาฯมาก่อน การที่เขาลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท 3 % ซึ่งเป็น  1  ใน  20,000 ราย โดยไม่ได้มีส่วนในการบริหารแสนสิริ จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ขนาดคุณชูวิทย์ยังถือ20,000หุ้น "

 นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า คุณชูวิทย์จะดราม่าอะไรก็ไป ผมในฐานะผู้บริหารแสนสิริมีหน้าที่ปกป้องและอธิบายข้อเท็จให้ทุกคนเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่มีหน้าที่ปกป้องให้เศรษฐา ส่วนเรื่องการฟ้องร้องจะฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้นต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายของบริษัทแสนสิริ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ฟ้องคุณชูวิทย์ เพราะตอนนี้ บ้านแสนสิริยังขายของได้หุ้นไม่ได้ตก 

ไม่อยากค้าความเสียเวลาขายบ้าน

 "ผมไม่ได้อยากค้าความ ผมขายบ้าน ไม่เหมือนคุณชูวิทย์ค้าความ ผมไม่อยากเสียเวลา ผมอยากขายบ้านทำธุรกิจของผม ส่วนการที่คุณชูวิทย์จะออกมาแฉอีก ผมก็ไม่รู้ว่า เขาจะแฉเรื่องอะไรอีก ต้องถามกลับว่า แสนสิริมันเกี่ยวอะไรกับเศรษฐาเขาออกไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไร อยู่มาเกือบ40ปีไม่มีใครมาแฉอะไร พอเศรษฐาออกไปทำงานการเมืองมีเรื่องแบบนี้  สิ่งที่คุณชูวิทย์พยายามพูดมาทั้งหมดเพียงเพื่อให้คุณเศรษฐาไม่มีความชอบธรรมเท่านั้น ดราม่าไปเรื่อยแต่ถามว่า สิ่งที่คุณเศรษฐาทำชอบธรรมไหม ชอบธรรม ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง "

ระบุเศรษฐาเอฟเฟกต์ซื้อที่ราคาแพง

นายอภิชาติ กล่าวยอมว่า หากเศรษฐา ทวีสิน ได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำให้แสนสิริทำงานยากขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือการหาซื้อที่ดินจากตัวกลาง แค่ตอนนี้คนขายที่เก็งไปหมดแล้วเพราะกลัวโดนขุด ทำให้จำนวนคนขายที่ดินให้แสนสิริน้อยลง  ราคาที่ดินแพงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้น 

  “ แต่เชื่อว่าบริษัทยังคงสร้างบ้าน ขายบ้านได้อยู่ เพราะด้วยคุณภาพบ้านแสนสิริซึ่งเป็นที่ยอมรับจากลูกค้ามาเกือบ40 ปีถือว่า มั่นคงแล้ว เพราะคนซื้อบ้านให้ความสำคัญทำเล  คุณภาพ ดีไซน์ ถ้าทำได้ดีเขาก็ซื้อ ”

ต่อยอดบริการความปลอดภัยแบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ แสนสิริกำลังจะรุกขยายไปทำเรื่อง AI  ภายใต้  LIV-24  ซึ่งปัจจุบันเป็นหน่วยงานที่ทำเรื่องเกี่ยวความปลอดภัยเพื่อยกระดับมาตรฐานของความปลอดภัย ด้วย เทคโนโลยี คอยดูแลลูกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมี LIV-24 ศูนย์สังเกตการณ์ระบบรักษาความปลอดภัยที่เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีระบบรักษาความปลอดภัยที่ในโครงการ สามารถตรวจสอบและสั่งการแบบเรียลไทม์

โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในโครงการกว่า100แห่งจะส่งสัญญาณเข้ามาที่ LIV-24 เมื่อเกิดเหตุผิดปกติ  เช่น มีคนบุกรุก ไฟไหม้ งูเข้าบ้าน สามารถดูแลได้ทั่วโลกไม่เฉพาะประเทศไทย รวมทั้งการทำ IOT ในอาคาร เช่น ติดตั้งในลิฟท์ หากลิฟท์ค้าง ตี3 เซนเซอร์ส่งสัญญาณไปที่วอร์รูมแสนสิริทันที 

 อย่างไรก็ตาม  นายอภิชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า  เศรษฐา  เขาเป็นน้องผม เป็นพาสเนอร์ผม 30-40ปี หากโหวตนายกฯ เขาไม่ได้ ผมพร้อมจะต้อนรับกลับมาเป็นซีอีโอแสนสิริเหมือนเดิม ผมไม่อยากเป็นหรอก อยากกลับไปเตะบอล ตกปลา ตีกอล์ฟเหมือนเดิมดีกว่า 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ