บ้านเดี่ยวลักชัวรี‘ซื้อปล่อยเช่า’ขาขึ้น!ครึ่งปีแรกเปิดตัวใหม่205%

ชาญวิชญ์ พสุวัต หัวหน้าแผนกพัฒนาการออกแบบโครงการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาอสังหาฯ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรีระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป และซูเปอร์ลักชัวรี ราคา 70 ล้านบาทขึ้นไป ขยายตัวสูง เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้น 205% เทียบช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ เปิดตัวโครงการใหม่สูงขึ้น 81% จากปี 2565

แม้ตลาดบ้านครึ่งแรกปี 2566 จำนวนยูนิต “ลดลง” 25% แต่มูลค่าโครงการกลับเพิ่มสูงขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการหลายรายหันมาพัฒนาโครงการแนวราบที่มีราคาสูงขึ้น 

"โควิด-19 ทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อบ้านมากกว่าคอนโดมิเนียม เพราะต้องการพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น ผู้ประกอบการพัฒนาแนวราบออกมาเยอะ ปี 2565 โครงการใหม่ของแนวราบพุ่งสูงขึ้น แต่ครึ่งแรกปี 2566 เทียบปี 2565 ขยับขึ้นสูงมาก จาก 3 โครงการเป็น 9-10 โครงการ จาก 200 เป็น 600 ยูนิต ซัพพลายพุ่ง 200% ในแง่กำลังซื้้อ หรือดีมานด์ มีกว่า 70% ของจำนวนซัพพลายที่ออกมาทำให้เซ็กเมนต์บ้านลักชัวรียังคงไปได้อยู่เรื่อยๆ ”
 

ตลาดบ้านลักชัวรีมีลักษณะคล้ายกับคอนโดสมัยก่อน กล่าวคือ เริ่มมีคนซื้อบ้านหลังที่ 2 หลังที่ 3 ขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งาน บางรายซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกหลานมาอยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ หรือซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ในทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งมีผลตอบแทนสูง 5-7% ยกตัวอย่าง โซนวิภาวดีรังสิต-ดอนเมือง ที่อยู่ติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพฯ อย่าง “ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี” ค่าเช่าเฉลี่ย 120,000-150,000 บาทต่อตารางวาต่อเดือน

ทั้งนี้ ทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ย่านวิภาวดีรังสิต-ดอนเมือง มีศักยภาพและมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นทำเลที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว ทั้งเส้นทางคมนาคมทางรถยนต์ รถไฟฟ้า และอยู่ใกล้สนามบินดอนเมือง ที่มีแผนขยายสนามบินระยะที่ 3 มีโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการฯ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ขยายตัว

อีกหนึ่งดัชนีชี้วัดศักยภาพของทำเลนี้คือ “ราคาประเมินที่ดิน" ในปัจจุบันปรับสูงขึ้นถึง 25%!! จาก 120,000 เป็น 150,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่พื้นที่กรุงเทพฯ เฉลี่ยปรับขึ้น 2.8%

การทำตลาดและการขายบ้านระดับลักชัวรีของซีบีอาร์อีที่ผ่านมา พบว่าผู้บริโภคมีความต้องการบ้านเดี่ยวในทำเลกรุงเทพฯ ตอนเหนือเป็นอย่างมาก แต่ทำเลดังกล่าวมีซัพพลายน้อยมากเมื่อเทียบทำเลอื่น เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่ถูกพัฒนาในเชิงพาณิชย์ หรือ สถานที่ราชการ

ปีนี้มีเพียงโครงการ “ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี” ทำให้อัตราการขายสูง 100% เพราะไม่มีคู่แข่งและโครงการตั้งอยู่ติดโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ กรุงเทพฯ เป็นการเพิ่ม “มูลค่า” ให้ผู้ซื้อเพื่อลงทุนเพราะมีตลาดเช่าที่พักอาศัยจากครอบครัวชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีลูกเรียนในโรงเรียนดังกล่าว สามารถ “ขายต่อ” ได้ในอนาคตเพราะมีดีมานด์ใหม่เข้ามาทุกปี

ณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท คูน เอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี  กล่าวว่า ไฮด์พาร์ค การ์เด้น วิภาวดี มูลค่าโครงการกว่า 6,500 ล้านบาท เกิดจากความร่วมมือระหว่าง คูน เอสเตท กับ Asia International School Limited (AISL) ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ในภูมิภาคเอเชีย

โดยเฟสแรกยอดขายทะลุเป้ากว่า 50% รวม 32 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท โครงการประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 3 ขนาด ตั้งแต่ 73-166 ตารางวา ราคา 38-81 ล้านบาท คาดสิ้นปีนี้ปิดการขาย และพร้อมพัฒนาโครงการเฟสสองในปี 2567
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...