วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TU ประมาณการกำไร 3Q66F: โมเมนตัมเป็นบวก QoQ

อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% QoQ เพราะสถานการณ์การลดสต็อกในสหรัฐ และญี่ปุ่นสิ้นสุดลง เราคาดว่า GPM จะลดลง 1.0ppts เนื่องจากปริมาณยอดขายลดลงและ ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2ppts QoQ เนื่องจากราคาปลาทูน่าลดลง ในขณะเดียวกัน สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายน่าจะได้อานิสงส์จากการประหยัดต่อขนาดโดยลดลง 0.1pptsQoQ เหลือ 11.6% เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 554 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 7%YoY เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ในขณะเดียวกัน TU จะยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก Red Lobster (RL) ซึ่งจะทำให้มีการบันทึกรายได้จากภาษีในไตรมาสนี้ 192 ล้านบาท

เราคาดว่า TU จะรับรู้ส่วนแบ่งผลขาดทุน 65 ล้านบาท ลดลงจาก 256 ล้านบาทใน 3Q65 และ 137 ล้านบาทใน 2Q66 โดยคาดว่า RL จะขาดทุน 200 ล้านบาท ค่อนข้างทรงตัว QoQ แต่ดีขึ้น YoY จากที่ขาดทุน 456 ล้านบาทใน 3Q65 เพราะมีการปรับขึ้นราคาขาย และต้นทุนแรงงานลดลงจากกลยุทธ์ภายในองค์กรเพื่อพลิกฟื้นธุรกิจ

โมเมนตัมจะยังเป็นบวกต่อเนื่องใน 4Q66F

เราคาดว่าโมเมนตัมกำไรของ TU จะยังคงเป็นบวกใน 4Q66F จากปริมาณยอดขายที่สูงขึ้นของสินค้าในกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารทะเลแปรรูป เราคาดว่า GPM น่าจะเพิ่มขึ้นเพราะราคาปลาทูน่าลดลงใน 3Q66 (มีช่วง lag time 2-3 เดือน) นอกจากนี้ ใน 4Q66 สายการผลิตสินค้าฮาลาลของโรงงานผลิตสินค้าพร้อมรับประทานแห่งใหม่ (ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 38%) จะเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะเปิดดำเนินการเต็มรูปแบบใน 1Q67 ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนยอดขายในธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ของเราที่ 4.92 พันล้านบาท (-31% YoY) และปี
2567F ที่ 5.99 พันล้านบาท (+22% YoY) ยังไม่ได้รวมการปรับประมาณการกำไรสุทธิของ ITC รอบล่าสุดของเรา ซึ่งจะทำให้ประมาณการกำไรสุทธิของ TU ในปีนี้ และปีหน้ามี upside อีกปีละประมาณ 2%

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ TU และประเมินราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 19.40 บาท อิงจาก PER ที่ 15.2x (PER เฉลี่ยระยะยาว) เราเลือก TU เป็นหนึ่งในหุ้นเด่นของเราในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากโมเมนตัมกำไรที่เป็นบวกในช่วง 2H66F-2567F, ราคาหุ้นที่ไม่แพง (PER ปี 2567F ที่ 11x) และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจ (4.2% ในปี 2566F และ 5.0% ในปี 2567F)

 

Risks

ต้นทุนวัตถุดิบแพงขึ้น, อัตราแลกเปลี่ยน และเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

 

 

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไทย’ ร่วงลงสองอันดับ! ใน IMD World Talent Ranking ปี 2024 ส่วนสิงคโปร์นำโด่ง

จากการจัดอันดับ “ประเทศที่มีความเป็นเลิศในด้านบุคลากรผู้มีความสามารถประจำปี 2024” (The 2024 IMD Worl...

Apple วางขาย iPhone 16 พร้อมนวัตกรรมความยั่งยืน ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 85%

Apple ได้สร้างมาตรฐานใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการวางขาย iPhone 16 ที่เน้นความยั่งยืน โด...

ผล 1 ปีกับความคืบหน้า ESG Symposium ส่งไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ สู้โลกเดือด

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เห็นผลเป็นรูปธรรม ตาม 4 ข้อเสนอจากงาน ESG Symposium 2023 ทั้งสร้าง "สระบุรี...

‘ลาซาด้า’ เดินเกมทำกำไร ชู '3 กลยุทธ์' สร้างยุคใหม่อีคอมเมิร์ซ

วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย กล่าวว่า ลาซาด้ายังเดินหน้าลงทุนใน...