“ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์” ชิงจ่าฝูง

หลัง ทีมฟุตบอลชาติไทย ชุดยู23 จบเส้นทางในศึก เอเชี่ยนเกมส์ หางโจว ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

โฟกัสของแฟนลูกหนังชาวไทย ก็กลับมาอยู่ที่เกมฟาดแข้งไทยลีก ลีกสูงสุด กันอีกครั้ง

โดยเฉพาะโปรแกรมนัด “ฟรายเดย์ไนท์” ในค่ำวันนี้ (29 ก.ย.)

ซึ่งเป็นซูเปอร์บิ๊กแมตช์ “ชิงจ่าฝูง” ของ 2 ยอดทีมหัวตาราง

“แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เปิดรังทรู สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในเวลาหนึ่งทุ่มตรง

เดิมทีแมตช์นี้ ทีมเซราะกราว จะเป็นต้องเจ้าบ้าน

แต่ได้ขอสลับมาเยือนก่อน เนื่องจากพวกเขาต้องเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น

เพื่อทำศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก พบ เวนท์ฟอเรท โคฟุ ในวันพุธที่ 4 ต.ค.

ต้องถือเป็นการเจอกันของมวยคู่เอก ที่ถูกคู่ ถูกเวลา เป็นยิ่งนัก!

เพราะทั้งสองทีมต่างมีแต้มเท่ากันที่ 13 คะแนน จาก 5 นัดที่ผ่านมา

ซึ่ง ทรู แบงค็อกฯ นำเป็นจ่าฝูง ด้วยผลต่างประตูได้-เสีย ที่ดีกว่า บุรีรัมย์ อยู่ 1 ลูก

ที่สำคัญทั้งสองทีม ต่างกำลังมีฟอร์มที่ร้อนแรงต่อเนื่อง อยากที่ใครจะหยุดอยู่จริงๆในชั่วโมงนี้

โดยเฉพาะกับสองเกมล่าสุด ในศึก ACL และไทยลีก

แข้งปราสาทสายฟ้า เปิดบ้านถล่ม เจ้อเจียง จากแดนมังกร 4-1

ตามด้วยบุกมาคว้า 3 แต้มเหนือ โปลิศ เทโร 2-1

ขณะที่ บียู คว้าชัยแมตช์ประวัติศาสตร์ในถ้วยเอเชีย ด้วยการบุกไปยิงแซงเอาชนะ ไลออนส์ ซิตี้ เซเลอร์ส ถึงถิ่น 2 ประตูต่อ 1

ก่อนจะกลับมาคว้าชัยเหนือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2-0 ในศึกบิ๊กแมตช์ดาร์บี้เมืองปทุม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ซึ่งการเจอกันของทั้งคู่ในช่วงหลังๆผลัดกันแพ้ ผลัดกันชนะ มาโดยตลอด

ล่าสุดในเกมชิงถ้วยแชมเปียนส์คัพ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน

เป็น “แข้งเทพ” ที่เผด็จศึก ยอดทีมอีสานใต้ คว้าโทรฟี่ใบแรกของสโมสร ได้อย่างยิ่งใหญ่!

ดังนั้นการมาพบกัน (อีกครั้ง) ในยกแรกของศึกไทยลีกเที่ยวนี้

ที่มีตำแหน่งจ่าฝูงของตารางเป็นเดิมพัน

จึงเชื่อขนมกินได้เลยว่า จะเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีที่เข้มข้นมันส์หยดติ๋ง

และเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ISO ของนักเตะทั้งสองทีม อย่างไม่ต้องสงสัยกันเลย

ขออย่างเดียว อย่าให้เกิดเหตุการณ์ความผิดพลาด...ซำ้ซาก อย่างไม่น่าให้อภัย

ของ “ผู้ตัดสิน” (บางคน) เหมือนในเกมล่าสุดที่สนามบุณยะจินดา

ซึ่งเจ้าบ้านต้องชีช้ำ ปราชัยให้ทีมใหญ่

ทั้งที่จริงๆแล้ว ผลต้องออกมาเสมอ แบ่งแต้มกันไป ถึงจะยุติธรรม

แต่เพราะการทำหน้าที่อัน “ไร้มาตรฐาน” ของท่านเปา หน้าเดิมๆ

ที่แฟนบอลเขาเอือมระอากันทั้งบาง

ขนาดลงทุนใช้ VAR มาช่วยตัดสินอยู่ทนโท่ แต่พี่แกก็ยังดื้อรั้น...ไม่ยอมไปแหกตาดู

สุดท้ายความเสียหาย มันก็เลยตกอยู่กับทั้งสองทีม

ฝั่งนึงพ่ายแพ้ ไม่มีคะแนนติดมือ

ส่วนทีมชนะได้ 3 แต้ม ก็ไม่สง่างาม ตกเป็นขี้ปากของผู้คนไปต่างๆนานา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันเกิดจาก “คนคาบนกหวีด” ที่ไม่เคยคิดปรับปรุง พัฒนาตัวเอง เลยแม้แต่น้อย

ก็รอดูว่าเคสนี้ สมาคมฯจะมีบทลงโทษอย่างไร?...กับเรื่องน่าอายที่เกิดขึ้น

โดยเฉพาะคนเป็นนายกสมาคมฯ ที่ยืนยันมาแล้วว่าตัวเอง “ไม่ลาออก” ก่อนกำหนดแน่

เพราะมีภารกิจต้องชำระสะสางมากมาย

ไม่ออก ไม่เป็นไร แต่เวลาอีกไม่กี่เดือนที่เหลืออยู่ โปรดช่วย #SAVETHAILEAGE

ด้วยการ “กำจัดเนื้อร้าย” ในวงการผู้ตัดสิน ให้หมดไป หรือเหลือให้น้อยที่สุด...ด้วยเถิด

ถ้าทำได้ นั่นแหละ ถึงจะเรียกว่า “ไม่ทิ้งขี้” อย่างแท้จริง !!!

                                               - บี บางปะกง -
                                    [email protected]