ค่าไฟฟ้างวดใหม่มาแล้ว ชาวบ้านโอดจ่ายสูงกว่าเดิม

หลายครอบครัวได้รับบิลค่าไฟฟ้างวดใหม่มาแล้ว เป็นยอดการใช้ไฟที่เจ้าหน้าที่จดบันทึกการใช้ไฟตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมจนถึงประมาณวันที่ 18 -24 กันยายนนี้ แต่เมื่อมาตรวจสอบดูค่าไฟที่จะต้องจ่ายทุกคนผิดหวัง เพราะค่าไฟยังไม่ได้ลด เนื่องจากยังคงเป็นค่าไฟของเดือนสิงหาคม แม้เจ้าหน้าที่จะออกบิลค่าไฟในเดือนนี้ก็ตาม หลายบ้านค่าไฟกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม

ชาวบ้านบางรายในพื้นที่ ต.ห้วยนาง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่จ่ายค่าไฟอยู่ประมาณเดือนละ 300 – 400 บาท แต่ใบแจ้งหนี้รอบใหม่มาวันนี้ พบว่ากลับต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมเป็น 450 – 600 บาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณครัวเรือนละเกือบ 200 บาท จึงผิดหวังบิลค่าไฟมาใหม่กลางเดือนกันยายนนี้ ยังต้องจ่ายค่าไฟในอัตราต่อหน่วยเท่าเดิม คือ หน่วยละ 5.91 บาท แถมยังจ่ายสูงกว่าเดือนก่อน

นางอารีย์ เจ้าของร้านต้นชาติ๋มซำ บอกว่า ได้รับบิลค่าไฟงวดล่าสุดแล้ว เป็นการใช้ไฟตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม -18 กันยายนนี้ พบว่า จำนวนเงินเรียกเก็บครั้งนี้ลดลงกว่าเดือนก่อนกว่า 1,000 บาท แต่เชื่อว่าเป็นผลเพราะการร่วมกันประหยัดค่าไฟของร้าน เพราะปกติจะต้องจ่ายเดือนละกว่า 20,000 บาท ซึ่งเดือนนี้ก็จ่าย 20,000 กว่าบาท แต่ลดลงจากเดือนก่อนกว่า 1,000 บาท จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นผลเพราะทุกคนในร้านช่วยกันประหยัด หลังจากพบว่าค่าไฟพุ่งสูงขึ้นมาก

เมื่อตรวจสอบบิลค่าไฟพบว่า ค่าไฟต่อหน่วยยังอยู่ที่ 5.91 บาท แสดงว่ามาตรการลดค่าไฟของรัฐยังไม่มาในบิลนี้

ซึ่งร้านขายอาหารกาแฟ ติ๋มซำยามเช้า ต้นทุนสำคัญของทุกร้านคือ ค่าก๊าซหุงต้ม และค่าไฟฟ้า โดยก๊าซหุงต้ม ต้องใช้ทั้งนึ่ง ทั้งต้ม ทั้งทอด ส่วนของตนซึ่งนอกจากขายที่ร้านประจำแล้ว ยังขายที่ตลาดถนนคนเดินด้วย แต่ละวันจึงต้องใช้ก๊าซจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ก๊าซหุงต้มยังอยู่ในราคาเดิม รัฐยังไม่ปรับลดเพิ่ม จึงอยากให้รัฐเร่งปรับลดค่าก๊าซลงด้วย ส่วนค่าไฟ เป็นต้นทุนลำดับ 2 ซึ่งหากรัฐบาลปรับลดค่าก๊าซ ค่าไฟลง เชื่อว่าจะสามารถช่วยประชาชนรวมทั้งร้านค้าลักษณะนี้ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง

นอกจากนั้น เรื่องนโนบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท อยากให้รัฐผ่อนคลายระยะทางในการใช้เงิน เพราะห่วงหากกำหนดรัศมีแค่ 4 กม. จะมีใครได้มาใช้จ่ายเงินดิจิทัลที่ร้านได้บ้าง ประชาชนรอบนอก ซึ่งปกติก็หมุนเวียนเข้ามาใช้จ่ายในตัวเมือง คงไม่มีใครมาใช้จ่าย เพราะเกินพื้นที่จำกัด เปรียบเทียบกับโครงการคนละครึ่งของรัฐบาลชุดที่แล้ว สามารถใช้ที่ไหนก็ได้ สามารถกระตุ้นยอดขาย กระตุ้นการท่องเที่ยวได้

อยากให้รัฐไม่จำกัดพื้นที่รัศมีการใช้ เพื่อจะได้สะดวกและเงินได้หมุนเวียนอย่างเต็มที่ ประชาชนรอบนอกต่างอำเภอได้เข้ามาใช้บริการภายในร้านได้ด้วย

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

จับตา 48 ชั่วโมงอันตราย หลังระเบิดเลบานอน l World in Brief

รมต.เลบานอนเตือนระวังสถานการณ์บานปลายรุนแรง จากเหตุเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบา...

‘อาเซียน’ หันใช้คิวอาร์โค้ดพุ่ง ดันภูมิภาคสู่ ‘สังคมไร้เงินสด’

นิกเคอิเอเชียรายงานว่า การชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ดเริ่มเป็นที่แพร่หลายในตลาดเกิดใหม่เมื่อหลายปีก่อน เ...

เปิดประสบการณ์เยือน ‘กัมพูชา’ ครั้งแรกของนักการทูตแรกเข้า

“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับไทย ซึ่งคนไทยสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างง่ายดายทั้ง...

“สถานการณ์ตอนนี้ไม่ง่ายเลย” ข้อความแรกของซีอีโอใหม่ Nike ถึงพนักงาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (20 ก.ย.) ว่า เอลเลียต ฮิลล์ ผู้บริหารคนใหม่ของ Nike Inc., กล่าวต่อ...