วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Fed ลดดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม มีแรงขายมากในหุ้น BH จากความกังวลแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/67 เป็นปัจจัยกดดันดัชนีปรับตัวขึ้นได้จำกัด ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการประกาศผลการประชุมเฟดในคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,469.72 จุด +2.30 จุด +0.16% มูลค่าการซื้อขาย 55,536.51 ลบ. Program Trading -657.29 ลบ. ต่างชาติ -1,744.40 ลบ. TFEX +20,221 สัญญา ตราสารหนี้ -10,489.70 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ หรือ +0.93% ปิดที่ 72.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับธนาคารกลางสหรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินว่านโยบายต่าง ๆ ของโดนัลด์ ทรัมป์ซึ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลต่ออุปทานน้ำมันอย่างไร
+ ธนาคารกลางสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ตามคาดซึ่งเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนก.ย.
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 221,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 227,000 ราย
+ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 8-1 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ในการประชุม สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
+ กฟผ. เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบกลับ ตามร่างแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP2024) 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 2,472 เมกะวัตต์

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 0.59 จุด หรือ -0.001% ส่วนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ตามคาด

- ไต้หวันประกาศจะช่วยบริษัทต่าง ๆ ย้ายฐานการผลิตออกจากจีน เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างมากจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ สัญญาว่าจะเรียก เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
- รัฐบาลแคนาดาสั่งให้ติ๊กต๊อก (TikTok) ยุติการดำเนินธุรกิจในประเทศแคนาดา โดยอ้างเรื่องความมั่นคงของชาติ แต่ผู้ใช้งานในประเทศ ยังสามารถเข้าถึงแอปวิดีโอยอดนิยมแอปนี้ได้
- สหรัฐเปิดเผยว่าประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.2%YoY ใน 3Q67 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ที่ระดับ 2.5%YoY

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ในประเทศนักลงทุนยังติดตามการประกาศงบของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิดมองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,460-1,475 จุด

กลยุทธ์การลงทุน    

• สินค้าส่งออกเดือนก.ย.ที่ยังเติบโต : ITC AAI STA NER TEGH STGT WFX
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแผนลงทุน Data Center : WHA ADVANC GULF TRUE INSET
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA
• MSCI Rebalance (ใช้ราคาปิด25 พ.ย.) : MSCI Global Standard : เข้า - ออก SCGP MSCI Global Small Cap : เข้า CCET ออก TQM

หุ้นรายงานพิเศษ  

TFM "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus 13.20 บาท)
"กำไรสุทธิ 3Q67 +17QoQ +188%YoY"

•กำไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 151 ลบ. +17%QoQ +188%YoY โดยมีรายได้จากการขาย 1,390 ลบ. +7%QoQ +6%YoY มาจากรายได้การขายอาหารกุ้ง (สัดส่วน 63% ของรายได้) +7%QoQ +29%YoY จากบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ และส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้การขายอาหารปลา (สัดส่วน 28% ของรายได้) +3%QoQ แต่ -18%YoY จากยอดขายอาหารปลากะพง -4%QoQ -30%YoY แต่ชดเชยด้วยยอดขายอาหารปลาน้ำจืด +11%QoQ +6%YoY มี %GP ที่ระดับ 19.2% เพิ่มขึ้น จาก 18.8% ใน 2Q67 และ 11.1% ใน 3Q66 จากการเน้นขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ประกอบกับการบริหารต้นทุน และค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ มี %NP ที่ระดับ 10.9% เพิ่มขึ้นจาก 10.0% ใน 2Q67 และ 4.0% ใน 3Q66 ทั้งนี้ 9M67 มีกำไร 383 ลบ. +430%YoY

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการ 3Q67 จากฤดูกาลเลี้ยงกุ้งถูกเลื่อนมาจากช่วง 2Q67 และคาดว่าจะอยู่จนถึง ช่วงต้น 4Q67 ขณะที่บริษัทสามารถบริหารต้นทุนได้ดี ทำให้อัตรากำไรปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 2024 ราว 429 ลบ. +390%YoY กำไรในช่วง 9M67 คิดเป็น 90% ของประมาณการทั้งปี ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น +38%YTD มี P/E 11X ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม 21X ราคาเหมาะสม Consensus 13.20 บาท Upside ราว 52% เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) NER (Bloomberg Consensus 6.40 บาท) คาดการณ์ว่าธุรกิจยางพาราจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีหน้า หนุนจากนโยบายของ "ทรัมป์" จะทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาดีขึ้น การบริโภคมากขึ้น และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 3/2567 กำไรโต 15.54% ที่ 360.78 ล้านบาท มั่นใจรายได้ทั้งปีโตตามเป้า ปริมาณขาย 440,000 ตัน จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับสูง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPN (Bloomberg Consensus 80.00 บาท) รุกคอมมูนิตี้มอลล์ ทุ่ม 2 พันล้านบาท ทยอย รีแบรนด์ Market Place 15 โครงการ เจาะทำเลศักยภาพ หวังเพิ่มทราฟฟิก 10-15% จากปัจจุบันเฉลี่ยราว 5,000-10,000 คนต่อวัน ประเดิมโมเดลใหม่ "Market Place เทพรักษ์" มกราคม 2568 ตั้งเป้ายอดใช้จ่าย 800-1,200 บาทต่อราย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IT (Bloomberg Consensus - บาท)ชูยอดขายสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ต เพิ่มต่อเนื่อง หนุนผลงาน 9 เดือนแรกมีรายได้กว่า 6,756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% มีกำไรสุทธิ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 184% จับตาธุรกิจอุปกรณ์เสริมและช่องทางออนไลน์ขยายตัว เล็งเปิดร้านใหม่เพิ่มอย่างน้อย 11 สาขา ในไตรมาส 4/2567 นี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BKGI (Bloomberg Consensus 2.80 บาท)โชว์ไตรมาส 3/67 เบ่งกำไรสุทธิ 14.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 105.7% ขณะที่รายได้รวม 91.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% หลังยอดขายและบริการเพิ่มขึ้น ฟากซีอีโอ "ดร.เสาวลักษณ์" ลั่นธุรกิจการแพทย์จีโนมิกส์เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจพันธุกรรมได้เฉพาะเจาะจง ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารัฐและเอกชน ตั้งเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มขึ้น 30% พร้อมลุยจับมือพันธมิตรขยายการให้บริการใหม่ๆ รองรับการเติบโตระยะยาว (ที่มา ข่าวหุ้น)

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ