‘สรวงศ์’ ถก ‘ลาว’ ขอเว้นค่าวีซ่า VOA กระตุกยอดทัวริสต์ข้ามแดนเที่ยวอีสาน

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า วันนี้ (18 ต.ค.) เตรียมเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของ สปป.ลาว ขอหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้เรื่องยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival : VOA) 1,000 บาท ของฝั่ง สปป.ลาว เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น จีน และเกาหลีใต้ หวังลดอุปสรรคการเดินทางข้ามแดนมาเที่ยวและจับจ่ายในจังหวัดลุ่มน้ำโขง เช่น หนองคาย ให้พำนักที่นี่อย่างน้อย 1 คืน ก่อนเดินทางกลับไปเที่ยว สปป.ลาว ต่อ

หลังจากวานนี้ (17 ต.ค.) ได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับภาคเอกชนท่องเที่ยว จ.หนองคาย ซึ่งเสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เร่งประสานเรื่องนี้กับทางการ สปป.ลาว เพื่อเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติข้ามแดนเข้าไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนซึ่งปัจจุบันเฉลี่ยเดินทางเข้ามาเพียง 4,000 คนต่อเดือน หวังเห็นตัวเลขเพิ่มเป็นมากกว่า 10,000 คนต่อเดือน

หรือหากข้อเสนอดังกล่าวเป็นไปได้ยาก อาจจัดทำโครงการแจกคูปองมูลค่า 1,000 บาทแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติสำหรับเป็นส่วนลดใช้จ่ายในร้านอาหาร โรงแรม หรือซื้อแพ็กเกจทัวร์ในหนองคาย ชดเชยกับค่าวีซ่า VOA ที่นักท่องเที่ยวต้องจ่ายเพื่อกลับเข้าฝั่งลาว ขณะเดียวกันต้องเร่งสร้างชื่อเสียงในระดับอิมแพ็คให้ จ.หนองคายและจังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสานเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายงานข้อมูลว่า จ.หนองคาย มีรายได้การท่องเที่ยวและบริการมากเป็นอันดับ 4 ของภาคอีสาน โดยคิดเป็นสัดส่วน 50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการท่องเที่ยวยังคงติดกับดักหนี้จากวิกฤติโควิด-19 จึงอยากให้รัฐบาลออกมาตรการคลินิกแก้หนี้ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้

ผู้ประกอบการยังได้เสนอแนวทางส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงความเชื่อเรื่องพญานาค ด้วยการกำหนดธีมของพญานาคใน 5 จังหวัดลุ่มน้ำโขงภาคอีสาน ได้แก่ หนองคาย เน้นส่งเสริมการค้า ทรัพย์สมบัติ, อุดรธานี เน้นส่งเสริมความรุ่งโรจน์, บึงกาฬ เน้นส่งเสริมทรัพยากรด้านแฟชั่น โดยอาจพิจารณาจัดแฟชั่นโชว์บนหินสามวาฬ, มุกดาหาร เน้นศิลปวัฒนธรรม และนครพนม เน้นอาหาร เพื่อชูธีมแต่ละด้านให้ชัดเจนแล้วจัดเส้นทางท่องเที่ยวแบ่งมาร์เก็ตแชร์กัน ไม่แย่งนักท่องเที่ยวกันเอง

พร้อมส่งเสริมประเพณีออกพรรษาของ จ.หนองคาย ให้มีการแห่ขบวนพญานาคอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อโหมโรงก่อนปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคในปีถัดๆ ไป โดยนายสรวงศ์ รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้เสนอว่าในปี 2568 อาจมีการแห่ทั้งขบวนพญานาคและขบวนพญามังกร รับการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ ไทย-จีน ครบ 50 ปี

อีกกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการต้องการคือการส่งเสริมกองถ่ายภาพยนตร์และซีรีส์ทั้งจากในไทยและต่างประเทศมาถ่ายทำใน จ.หนองคาย เพื่อสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวรู้จักซอฟต์พาวเวอร์และสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ