ด่วน! ECB ประกาศลดดอกเบี้ย 'ครั้งที่ 3' มั่นใจความเสี่ยงเงินเฟ้อลดลง

ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ประกาศการลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็น “ครั้งที่ 3 ของปีนี้” โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.25%

มติของที่ประชุมอีซีบีเมื่อวานนี้ยังนับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ที่ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน หลังจากเพิ่งลดไป 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 12 ก.ย. ขณะที่อีซีบีเริ่มการลดดอกเบี้ยครั้งแรกสู่วัฎจักรขาลงเมื่อเดือนมิ.ย. โดยลดลง 0.25% และเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 5 ปี 

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีระบุว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อปรับตัวลดลงและมีแนวโน้มการเติบโตที่อ่อนตัวลง โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนลดลงเหลือ 1.7% ในเดือนกันยายน (ตัวเลขอัปเดตล่าสุด) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางเป็นครั้งแรกในรอบสามปี

ข้อมูลเงินเฟ้อ ณ วันที่ 1 ตุลาคม ที่เปิดเผยออกมาล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณบวกและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้บรรยากาศที่ผ่อนคลายจากธนาคารกลางยุโรปที่ออกมาแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ คริสติน ลาการ์ด ประธานอีซีบียังได้กล่าวเสริมความมั่นใจให้กับตลาดก่อนหน้านี้ด้วยการระบุว่า “ข้อมูลล่าสุดสนับสนุนแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ได้ในระยะเวลาอันสมควร”

อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยคือ แนวโน้มการเติบโตของยูโรโซน ธนาคารกลางยุโรปได้ปรับลดประมาณการการเติบโตของยูโรโซนสำหรับปี 2567 ลงในเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความอ่อนแอของความต้องการภายในประเทศ โดยคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะขยายตัว 0.8% เทียบกับ 0.9% ตามเดิม

ทั้งนี้ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่บางประเทศของยูโรโซน ยังคงเผชิญกับความท้าทายสำคัญ อาทิ ความอ่อนแอของภาคการผลิตในเยอรมนี และโครงการปรับงบประมาณขนาดใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในฝรั่งเศส ขณะที่ตัวชี้วัดความเชื่อมั่นยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ทางด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สอ้างความเห็นนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่า อีซีบี จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปี 2567 และจะทำให้ทั้งปีนี้ลดดอกเบี้ยรวมถึง 4 ครั้ง ขณะที่แคปิทัล อีโคโนมิกส์คาดการณ์ว่า อีซีบีจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมทุกครั้ง จนกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงจนแตะระดับ 2.5%

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ