จัดแบบพอดีตัว

ถึงเวลาทัพไทยออกศึกไล่ล่าเหรียญทองมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ “โอลิมปิกปารีส 2024” ส่วนจะสมหวังหรือผิดหวังอยู่ที่ศักยภาพของนักกีฬาแต่ละคนที่ได้ไปฝึกปรือวิชาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

สำหรับ “ปารีสเกมส์” หลังจากนี้คงหมดห่วงไปเปลาะหนึ่งเพราะความสำเร็จอยู่ที่ตัวนักกีฬาเอง คงมีเพียงอุปสรรคด่านแรกที่ต้องผ่านไปให้ได้ “สภาพอากาศที่อบอ้าว” แถมไม่มีเครื่องปรับอากาศภายในห้องพักอีกต่างหาก

เชียร์กันยาวๆไปเลยครับจนถึงวันที่ 11 ส.ค. มีให้เลือกถึง 4 ช่องทางไล่ตั้งแต่ทีสปอร์ต 7, เอ็มคอต เอชดี หมายเลข 30, ช่อง 7 เอชดี หมายเลข 35 และพีพีทีวี เอชดี หมายเลข 36 รวมถึงเอไอเอสเพลย์ และทรูไอดี โดยจะสลับหมุนเวียนถ่ายทอดสดให้แฟนกีฬาชมอย่างเต็มอิ่มทุกวัน

สิ่งที่น่าห่วงและกังวลที่สุดในตอนนี้คงจะเป็นเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัด “เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์” ระหว่างวันที่ 21-30 พ.ย. มากกว่า

เพราะล่าสุดงบประมาณที่เคาะออกมาไม่เพียงพอกับที่ทางคณะกรรมการจัดเสนอมากว่า 2 พันล้านบาท

ในเมื่อเราเลิกจัดไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะกระทบกับอะไรหลายอย่างทั้งภาพลักษณ์และเครดิตของประเทศในการเสนอตัวจัดกีฬาใหญ่ๆในอนาคต

จากนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงต้องหารือช่วยกันแก้ไขอย่างจริงจัง ผมว่าไม่ยากเลยแค่ลดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นลงบ้างรวมถึงลดจำนวนชนิดกีฬาที่จัดให้เหมือนกับทุกชาติแค่ 10 กว่าชนิดกีฬาเหมือนกับที่หลายชาติก่อนหน้านี้จัด เชื่อว่าทุกอย่างก็ผ่านฉลุยงบประมาณลดไปเยอะ แถมไม่บานปลาย สามารถจัดได้ตามที่ตั้งใจไว้แน่นอน

ถ้าจะจัดแบบเต็มแม็กตามที่ต้องการตั้งแต่แรกทั้ง 38-39 ชนิดกีฬา คิดว่าไม่สมควร หมดเวลา “หน้าใหญ่” แล้วครับ

การจัดชิงชัยจำนวนมากๆแบบ “สะเปะสะปะ” มั่วไปหมด ถามนิดครับ เกิดประโยชน์ต่อความสำเร็จในอนาคตกับทัพไทยในเกมใหญ่อย่าง “เอเชียนเกมส์ หรือโอลิมปิกเกมส์” หรือเปล่า เท่าที่ดูกีฬาที่เป็นสากลยังมีน้อยหรือไม่ค่อยมีแข่งในโอลิมปิกเกมส์

อย่าลืมปีหน้า 2568 ก็ต้องลุย “เอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์” ต่อที่ “ซาอุฯ” ไม่รู้ว่าหนนี้จะมีของจริงมามากน้อยแค่ไหน เท่าที่ทราบรายการนี้หลายชาติไม่ว่าจีนหรือญี่ปุ่นไม่ค่อยให้ความสำคัญส่งชุดใหญ่นัก นักกีฬาที่มาส่วนใหญ่จะเป็นอะไหล่ที่เก็บไว้ในอนาคตมากกว่า

เพราะเมื่อคราวที่ภูเก็ตเป็นเจ้าภาพก็เล่นเองดูเองทั้งนั้น

แล้วแบบนี้เราจะมาทุ่มให้เปลืองงบประมาณไปเพื่ออะไร สู้เก็บงบประมาณไว้สำหรับเจ้าภาพ “ซีเกมส์ ปีหน้า 2568 รวมถึงยูธโอลิมปิกเกมส์” น่าจะเหมาะกว่า

อย่าเอางบประมาณมาละเลงโดยเปล่าประโยชน์เลยครับ เท่าที่ดูวันนี้มีหลายสมาคมชนิดกีฬาที่ยังต้องการงบประมาณในการจัดทัวร์นาเมนต์สำคัญอยู่เลย สู้เรานำเงินมาสนับสนุนสมาคมกีฬาคงจะดีกว่า

อย่าลืมนะครับ “ซีเกมส์” เป้าหมายคือ “เจ้าเหรียญทอง”.

ตองเจ

คลิกอ่านคอลัมน์ “เรียงหน้าชน” เพิ่มเติม