เวียดนาม เผย GDP 2/67 สูงกว่าคาด 6.93% ดัชนี VN รับแรงหนุนหุ้นกลุ่ม mid-cap ผลตอบแทน 3.05%

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยวา ดัชนี VN-Index เพิ่มขึ้นช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากข่าวเชิงบวกหลาย ๆ ข่าว และยังคงยืนอยู่เหนือเส้นแนวโน้มค่า เฉลี่ย 100 วัน ได้ ซึ่งบ่งชี้ว่า แนวโน้มตลาดขาขึ้นน่าจะยังคง อยู่หลังจากที่ดัชนีปรับลดลงนับจากกลางเดือนมิถุนายน 2567

โดยนักลงทุนในประเทศเวียดนามตื่นเต้นกับข่าวดีทางเศรษฐกิจในช่วงสัปดาห์ ได้แก่ 

1.) การเติบโตของ GDP ไตรมาส 2 ปี 2567 สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 6.93%

2.) ดัชนี PMI เดือนมิถุนายนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 54.7% ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตกำลังนตัวได้ดี 

3.) การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และดุลการค้าแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 1.163 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ตามลำดับ

4.) สินเชื่อและเงินฝากในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 

ทั้งนี้ การปรับขึ้นของราคาหลักทรัพย์ยังคงดำเนินต่อไปในวงกว้างนำโดยหุ้นกลุ่ม mid-cap ด้วยผลตอบแทน 3.05% ตามด้วยหุ้นกลุ่ม large-cap และ small-cap ที่ปรับตัวขึ้น 2.96% และ 2.33% ตามลำดับ กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก 10 กลุ่มปรับตัวขึ้น โดย 37 ใน 40 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ มีราคาเพิ่มขึ้น มีเพียง 3 บริษัทเท่านั้นที่ราคาลดลง ซึ่งไม่เคยเห็นการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันเช่นนี้มานานแล้ว โบรกเกอร์และสื่อท้องถิ่นต่างมีมุมมองในแง่ดีมากขึ้น โดยเชื่อว่า VN-Index จะพยายามเพื่อพิชิตระดับ 1,300 จุดอีกครั้งในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ดี ที่น่าสนใจคือ มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ลดลงอย่างมากถึง 37.8% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เหลือ USD655m (23,800 ล้านบาท)แม้ว่านักลงทุนในประเทศจะได้รับแรงบันดาลใจจากข่าวดีข้างต้น แต่ก็ยังต้องระมัดระวังปัจจัยอื่น ๆ เช่น

  • แรงขายที่หนักหน่วงจากนักลงทุนต่างชาติ
  • ยอดการกู้ยืมเพื่อลงทุน (Margin lending) ที่สูงในโบรกเกอร์ส่วนใหญ่
  • ความผันผวนของคำเงินที่ยังคงดำเนินอยู่
  • ข่าวลือว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

นักลงทุนต่างชาติยังคงสถานะขายสุทธิอยู่ที่ USD85m หรือ 3,000 ล้านบาท ในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นที่ขายออกมากที่สุดคือ VRE, FUEVFVND และ FPT ในทางกลับกัน หุ้นที่นักลงทุนต่างชาติซื้อมากที่สุดคือ DSE, BID และ MCH

ขณะเดียวกัน ข้อมูลล่าสุดของ iShares Frontier and Select EM ETF ได้เปิดเผยว่า กองทุนได้ถอนการลงทุนออกจากเวียดนามเกือบทั้งหมด (เหลือน้ำหนักเพียง 0.26%)

ขณะที่ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งเวียดนาม ได้รายงานว่ามีบัญชีชื้อขายหลักทรัพย์เปิดใหม่ 106,765 บัญชีในเดือนมิถุนายน (เทียบกับ 132,010 บัญชีในเดือนพฤษภาคม) ท่ามกลางการปรับตัวของตลาดตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน ปัจจุบันมีบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์รวม 8.04 ล้านบัญชี ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งคิดเป็น 8% ของประชากรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่แท้จริงอาจต่ำกว่านี้ เนื่องจากนักลงทุนหนึ่งรายสามารถเปิดได้หลายบัญชีกับโบรกเกอร์ต่าง ๆ
 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...