WJS เผย 'แอปเปิ้ล' หารือ 'เมตา' จ่อนำ AI ไปใช้ใน Apple Intelligence

สำนักข่าววอลล์สตรีทเจอร์นัลอ้างอิงแหล่งข่าว รายงานวานนี้ (23 มิ.ย.) ว่า “เมตา” (Meta) บริษัทแม่เฟซบุ๊ก (Facebook) ได้หารือร่วมกับบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) เกี่ยวกับการรวมโมเดลเอไอรู้สร้าง (Generative AI) หรือ “เจนเอไอ” ของเมตา ไว้ใน “แอปเปิ้ล อินเทลลิเจนซ์” (Apple Intelligence) ซึ่งเป็นระบบเอไอสำหรับไอโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ของแอปเปิ้ลที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง “แอปเปิ้ล” (ผู้เล่นที่เข้ามาในตลาดเจนเอไออันดับท้าย ๆ) ได้พัฒนาโมเดลปัญญาประดิษฐ์ขนาดเล็กเป็นของตนเอง ขณะเดียวกันก็ประกาศหาพันธมิตรเพื่อพัฒนาเอไอให้มีความซับซ้อนมากขึ้นและใช้งานเฉพาะทางได้

พันธมิตรด้านเอไอรายแรกของแอปเปิ้ลคือ ChatGPT ของโอเพนเอไอ (OpenAI) โดยได้รับการเปิดตัวเป็นพันธมิตรผ่านงานเปิดตัวแอปเปิ้ล อินเทลลิเจนซ์ ในการประชุมนักพัฒนาระดับโลก (Worldwide Developers Conference) เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

เคร็ก เฟเดริกิ” หัวหน้าฝ่ายซอฟต์แวร์ของแอปเปิ้ล ได้ย้ำในงานประชุมดังกล่าวว่า ChatGPT เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้งานแอปเปิ้ลในปัจจุบัน และโอเพนเอไอ อาจนำเสนอ ChatGPT เวอร์ชันใช้งานฟรีให้กับแอปเปิ้ล อินเทลลิเจนซ์ แต่ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อบัญชี ChatGPT พรีเมี่ยมในอุปกรณ์แอปเปิ้ลได้เช่นกัน

นอกจากนี้แหล่งข่าวเผยด้วยว่า Anthropic และ Perplexity สตาร์ตอัปเอไอยังได้หารือกับแอปเปิ้ล เพื่อนำเจนเอไอของบริษัทไปใช้ในแอปเปิ้ล อินเทลลิเจนซ์ด้วย

แอปเปิ้ลเคยเผยไว้ว่า หากบริษัททำข้อตกลงกับพันธมิตรด้านเอไอนอกเหนือจากโอเพนเอไอ ลูกค้าจะสามารถเลือกโมเดลเอไอจากภายนอก เพื่อนำไปใช้ตามความต้องการ นอกเหนือจากระบบภายในของแอปเปิ้ลได้

ทั้งนี้ การหารือกับเมตา ตอกย้ำว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ เกิดขึ้นแล้วในยุคเอไอ และข้อตกลงระหว่างแอปเปิ้ลกับเมตาอาจมีความคุ้มค่า เมื่อพิจารณาจากปัญหาด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่ของทั้งสองบริษัท

อย่างไรก็ตาม การหารือกับพันธิมตรเอไอของแอปเปิ้ลยังไม่เสร็จสิ้น และอาจไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ แม้การทำข้อตกลงกับแอปเปิ้ลอาจช่วยบริษัทเอไอจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตนได้จำนวนมาก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะสามารถทำรายได้จากการจำหน่ายมากเพียงใด

ใช้งานเพิ่ม ต้นทุนเพิ่ม

ยีน มันสเตอร์ นักวิเคราะห์แอปเปิ้ล และหุ้นส่วนผู้จัดการจาก Deepwater Asset Management มองว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับแอปเปิ้ลอาจทำให้การใช้งาน ChatGPT เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า แต่ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของโอเพนเอไออาจมากขึ้นเช่นกัน โดยอาจเพิ่มขึ้นราว 30-40%

นอกจากนี้ มันสเตอร์คาดการณ์ด้วยว่า ผู้ใช้งานแอปเปิ้ล 10-20% มีแนวโน้มสมัครสมาชิกเอไอพรีเมียมกับ ChatGPT นั่นหมายความว่า บริษัทเอไอที่นำเทคโนโลยีไปใช้ในแพลตฟอร์มใหม่ของแอปเปิ้ล อาจมีรายได้เพิ่มหลายพันล้านดอลลาร์

 

อ้างอิง: Wall Street Journal

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

‘ไต้ฝุ่นยางิ’ ทำ ‘เศรษฐกิจเวียดนาม’ เสียหายกว่า 5 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พายุไต้ฝุ่นยางิ ถล่มเมียนมา เวียดนาม ลาว และไทยด้วยกำลังลมที่แรงมาก และทำใ...

ท่วมหนักสุด 'ในรอบ 3 ทศวรรษ' พายุบอริสถล่มยุโรป ผลกระทบจากโลกร้อน

จากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ชื่อว่า “พายุบอริส” ส่งผลให้มีฝนตกหนักจากออสเตรียไปจนถึงโรมาเนีย จนเกิด “น้...

ฮามาสโวความสามารถสูง ทำสงครามกาซาต่อได้แม้สูญเสีย

นายโอซามา ฮัมดัน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่นครอิสตันบูลของตุรกี ระบุ “ขบวนก...

สงครามสู้ฮามาสและยอดส่งออกร่วง กดดันจีดีพี ‘อิสราเอล’ Q2 ให้โตเพียง 0.7%

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอิสราเอลในไตรมาสที่สองชะลอตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไ...