เรื่องเล่า ‘เซ็นทรัล ภูเก็ต’ ต่อจิ๊กซอว์ TOP Destination for Global Jetsetter

แลนด์สเคป “เกาะภูเก็ต” วันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก...ฉายภาพชัดในความเป็น “เมืองท่องเที่ยวระดับโลก” ด้วยอินฟราสตัคเจอร์ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็น “บ้านหลังที่สอง” ของบรรดามหาเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ หรือ Asia’s Richest Beach Residential

ที่ต่างมุ่งหน้าสู่ไข่มุกแห่งอันดามันเพื่อมาท่องเที่ยว ใช้ชีวิต สัมผัสน้ำทะเลสีเทอร์ควอยซ์ (Turquoise) และหาดทรายขาวละเอียด (White Sand Beach) 

ภูเก็ต เป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไทยมีชื่อเสียงรู้จักไปทั่วโลก มีความเพียบพร้อมของสนามบินอินเตอร์เนชั่นแนลที่กำลังขยายเฟส 2 คาดแล้วเสร็จปี 2572 สนามกอล์ฟกว่า 10 แห่ง เรียกว่าเป็นพาราไดซ์ของนักกอล์ฟทั่วโลก มีท่าจอดเรือยอร์ชและไพรเวตเจ็ต โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาล เมดิคัลฮับ ฯลฯ 

องค์ประกอบเหล่านี้ดึงดูดคลื่นการลงทุนจากทุมมุมโลกเข้ามาไม่ขาดสาย! และแน่นอนว่าทุนยักษ์ใหญ่ตระกูลดังอย่าง “เซ็นทรัล” ไม่พลาดที่จะเลือกภูเก็ตเป็นหนึ่งในฐานที่มั่น! โดยเข้าลงหลักปักฐานสร้างอาณาจักรธุรกิจเป็นรายแรกๆ ตั้งแต่ปี 2547 และขยายเครือข่ายมาอย่างต่อเนื่องตลอดห้วงเวลากว่า 2 ทศวรรษ

“เรามี Vision ว่าจะเปิดศูนย์การค้าที่ดีที่สุดในภาคใต้ในเวลานั้นซึ่งเทรนด์ยังไม่เป็นแบบวันนี้ นักท่องเที่ยวมีอยู่ แต่ไม่บูมขนาดนี้ เซ็นทรัลเป็นผู้มาสร้างเทรนด์ เริ่มจากการเปิด เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว มีสตาร์บัคส์เป็นห้องรับแขก จะขายที่ เพื่อนมาหา นัดเจรจาธุรกิจ ซึ่งวันนี้ เซ็นทรัล ภูเก็ต มีสตาร์บัคส์ถึง 3 สาขา”

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงและศักยภาพของ "ภูเก็ต" ที่ส่องประกายเจิดจรัสในความเป็นเมืองลักชัวรีที่โดดเด่นบนแผนที่โลก!

มองเข้ามาจะเห็นสนามกอล์ฟกว่า 10 แห่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นสนามกอล์ฟชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย 36 หลุม อย่าง Red Mountain Golf Club Phuket ที่ปรับปรุงมาจากเหมืองแร่ดีบุกเก่า

นอกจากนี้ยังมี The Blue Canyon Country Club และ สนามกอล์ฟติดทะเล มิชชั่นฮิลล์ ภูเก็ต (Mission Hills PhuketGolf Resort) ขณะที่โรงแรมหรู บันยันทรี ภูเก็ต มีสนามกอล์ฟสวยงามอยู่ภายใน

ภูเก็ต ยังมีท่าเรือยอร์ช 5 แห่งของเอกชน 1 แห่งของราชการ ซึ่งเรือยอร์ชแต่ละลำมูลค่า 200-300 ล้านบาท  “มหาเศรษฐีทั่วโลกเอาเรือมาจอด 1 ปี บินมา 2-3 ครั้ง แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา ก็ต้องซื้อวิลล่า ย่านหาดกมลา กะตะ กะรน สนนราคาขยับไปหลังละ 200-300 ล้านบาท ส่วนหลังละ 100 ล้าน! เวลานี้หายากแล้ว”

ภูเก็ตวันนี้ก้าวสู่ตลาดลักชัวรีเต็มขั้น! จะเห็นมหาเศรษฐี และนักธุรกิจ บินไพรเวตเจ็ตมาจอดเป็นประจำ พร้อมทั้งใช้เวลาอยู่ในภูเก็ตมากขึ้น มีบ้านพักตากอากาศ หรือวิลล่า สำหรับการมาอยู่อาศัย  

จากยุคเดิมที่มีนักธุรกิจชาวฮ่องกง สิงคโปร์ เข้ามาซื้อพร็อพเพอร์ตี้เพื่อการลงทุน แต่ระยะ 2-3 ปี หลังวิกฤติโควิด-19  บรรดากลุ่มมั่งคั่งสูงในฮ่องกง สิงคโปร์ ก็ล้วนอยากมีบ้านหลังที่สองในภูเก็ตเช่นกัน   รวมทั้งชาวยุโรป รัสเซีย ย้ายถิ่นฐานหนีสงคราม หนีความวุ่นวายมาอาศัยอยู่ภูเก็ต ที่มีความคล้ายคลึงฮ่องกง สิงคโปร์ ในยุคเก่าก่อน ที่พ่อค้า นักธุรกิจ นิยมส่งบุตรหลานไปเรียนเพื่อให้ได้ภาษา

และเวลานี้เอง แม้แต่  เศรษฐี นักธุรกิจไทย จากกรุงเทพฯ ก็นิยมส่งบุตรหลานมาใช้ชีวิตที่โรงเรียนนานาชาติในภูเก็ตเช่นกัน  ซึ่งใช้เวลาบินกรุงเทพฯ ภูเก็ต เพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น 

ตอบคำถามที่ว่า ทำไม?? นักธุรกิจ นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ต่างชื่นชอบภูเก็ต! เพราะมีทุกอย่างที่ลักชัวรี แต่ Affordable จ่ายได้! เป็นมนต์สเน่ห์ดึงดูดอย่างดีทีเดียว

ฐานที่มั่น "กลุ่มเซ็นทรัล" สร้างอาณาจักรเมืองใหม่ "เซ็นทรัล ภูเก็ต" 

หากย้อนกลับไปในปี 2547  ศักยภาพของภูเก็ตดึงดูด “กลุ่มเซ็นทรัล” เข้ามาบุกเบิกการลงทุนสร้างเมืองใหม่ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” เริ่มจาก “เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต” ศูนย์การค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของภูเก็ต บนที่ดิน 30 ไร่ ก่อนพัฒนาส่วนต่อขยาย “ลักชัวรีมอลล์” ในฝั่งตรงข้าม นั่นคือ “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” เมื่อปี 2561 ปักหมุดเมกะโปรเจกต์! เป็นวันสต็อปชอปปิงครอบคลุมทุกระดับสินค้าและบริการ ยากที่ใครจะเทียบเคียง ซึ่งที่ดินฝั่งนี้มีขนาดใหญ่ถึง 144 ไร่ รองรับการพัฒนาต่อเนื่องในอนาคต   

การลงทุนในภูเก็ตของกลุ่มเซ็นทรัล มากเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ทีเดียว  ประกอบด้วย 4 ศูนย์การค้า, 5 ห้างสรรพสินค้า, 7 โรงแรม, 3 คอนโดมิเนียม รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่ม อาทิ ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ วิต้า เป็นต้น

"ภูเก็ตมีศักยภาพในการเป็น ลักชัวรี เดสติเนชัน และ เซ็นทรัล ภูเก็ต ช่วยเติมเต็มเมืองตอบโจทย์ภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็นฮับระดับโลกในหลายมิติ อาทิ Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, education, Smart city, Marina และ MICE อีกด้วย”

โดยเฉพาะการเปิดบริการ “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” รองรับลักชัวรีไลฟ์สไตล์! ที่วันนี้ภาพชัดมากๆ เป็นการสร้างชอปปิงลักชัวรีเมืองชายทะเลให้เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า ซานโตรินี ไมอามี่บีช และฮาวาย ผลักดันให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น The World’s Luxury Magnitude  สอดคล้องกับการพัฒนาของเมืองตามแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการพัฒนาให้ภูเก็ตเป็น

“Top Destination for Global Jetsetter” ดึงดูดกลุ่มกำลังซื้อสูง กลุ่มมั่งคั่งทั่วโลก 

​“เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า เป็นลักชัวรีมอลล์แห่งแรกนอกกรุงเทพฯ เดิมเป็นแค่ความฝัน ปัจจุบันเป็นความจริงแล้ว!" ดร.ณัฐกิตติ์ ขยายความต่อว่า ไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ก้าวสู่ “ลักชัวรี ไลฟ์สไตล์” ด้วยเช่นกัน ทำให้ตลาดลักชัวรีเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลา 6 ปี  

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า เสมือนน้องๆ หรือ "มินิ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี” ต่อจิ๊กซอว์การเป็นจุดหมายปลายทางที่มากกว่าการใช้ชีวิตและการชอปปิง เติมเต็มประสบการณ์เหนือระดับในทุกมิติตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ให้กับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ในฐานะ "World-class luxury mall"  แห่งเดียวใจกลางภูเก็ตด้วยแบรนด์ลักชัวรีระดับโลกมากมาย เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก ‘Quantity to Quality spending’ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทั้งภาครัฐและเอกชนผนึกพลังกันโปรโมต ลักชัวรี ทัวริซึ่ม ดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ 

และทำให้ภูเก็ตไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เที่ยวได้-จับจ่ายได้ตลอดทั้งปี! ช่วยตอกย้ำความมั่นใจบรรดาแบรนด์ลักชัวรีที่จะมาเปิดตลาดภูเก็ต

บิ๊กสเต็ปของ เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า  ตอกย้ำการตอบรับที่ดี และยอดขายที่เรียกว่าสร้างนิวไฮระดับโกลบอล ด้วยแผนลงทุนใหญ่ต่อเนื่องขยายพื้นที่ลักชัวรีโซนเพิ่ม 4 เท่า!! จาก 2,000 ตร.ม. เป็น 4,000 ตร.ม. ภายในสิ้นปี 2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ตร.ม.ในปี 2568 มีแบรนด์เพิ่มขึ้นจาก 14 เป็น 30 แบรนด์อีกด้วย

รองรับดีมานด์กลุ่มสินค้าลักชัวรีที่จะขยายตัวสูงต่อเนื่องตามการเติบโตของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาภูเก็ตมากขึ้นในอนาคต 

ในภาพรวมตลาดสินค้าลักชัวรีในประเทศไทย ปัจจุบันมีมูลค่าราว 160,000ล้านบาทขยายตัว 5.62% จนถึงปี 2571 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์ และหนึ่งในตลาดสำคัญนั่นคือ ภูเก็ต

สำหรับ 14 แบรนด์หรูปักหมุดเมืองท่องเที่ยวระดับโลกใน เซ็นทรัล ภูเก็ต  ได้แก่ BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE และ ZEGNA รวมถึง PRADA ที่เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้ 

ตลาดลักชัวรีโตวันโตคืน เคลื่อนเศรษฐกิจภูเก็ตโตแกร่งและยั่งยืน   

หนึ่งในผู้บริหารลูกหม้อที่อยู่คู่ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ตั้งแต่วันแรก  วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขาภูเก็ต ขยายความต่อว่า ความโดดเด่นของบรรดาไฮแบรนด์เหล่านี้จะมี “บีช คอลเลคชั่น” ที่เหมือนกับเมืองชายทะเลทั่วโลก แน่นอนว่า แตกต่างจากช็อปในกรุงเทพฯ ซึ่งหลายแบรนด์ทำเงินติดระดับท็อปของโลก

"ไลฟ์สไตล์คนภูเก็ตเริ่มมองสินค้าลักชัวรีเป็นการลงทุน ใช้ได้นาน และไม่ขาดทุน! จึงไม่แปลกใจที่ตลาดลักชัวรีแบรนด์ในภูเก็ต และ เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า จะโตวันโตคืน! เวลานี้ภูเก็ตกลายเป็นตลาดฮันเตอร์ มาหาแรร์ไอเท็ม ที่อาจหาไม่ได้ในกรุงเทพฯ หรือแม้แต่สหรัฐ ตะวันออกกลาง ทั่วโลก ไม่มีของแต่มีที่ภูเก็ต ไม่ว่าจะปาเต๊ะ โรเล็กซ์ หลุยส์วิตตอง ฯลฯ” 

ความเป็นเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ทำให้สถานะเศรษฐกิจของ "ภูเก็ต" สะพัดสูงเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ  เมื่อปี 2566 ภูเก็ต สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวถึง 380,000 ล้านบาท ปี 2567 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 450,000 ล้านบาท สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน เป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ

บรรดาตระกูลดังๆ ของไทยไม่พลาด...ล้วนมีบ้าน คอนโดมิเนียม หรือ วิลล่า อยู่ภูเก็ต และแน่นอนว่า มาใช้ชีวิต กิน ดื่ม ช้อป อยู่ใน “เซ็นทรัล ภูเก็ต”  

ซึ่งพบว่าปัจจุบันมีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ย 80,000 ถึง 100,000 คนต่อวัน หรือมีรายได้มาจากฐานลูกค้าคนไทย 30% Expat และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 70%  การขยายลักชัวรีโซนเพิ่มขึ้นในอนาคตจะดึงดูดลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น 20%

หากพิจารณาจากฐานข้อมูล “The 1” ของกลุ่มเซ็นทรัล สะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าของเซ็นทรัล ภูเก็ต มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ  โดยเฉพาะ Wealth Segment ใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth สาขาอื่นๆ ถึง 45% หรือ ท็อปสเปนเดอร์ ใช้จ่ายเฉลี่ย 20-30 ล้านบาทต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าระดับครีม 2,300 คน เป็น VVIP ชาวภูเก็ต 50-60% ทีเดียว 40% เป็นลูกค้าชาวกรุงเทพฯ และอื่นๆ 

โครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วนเช่นนี้ “เซ็นทรัลพัฒนา” ยังเตรียมหารือพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ต่อยอดบูมบิ๊กอีเวนต์ มหกรรม “ลดยกเกาะภูเก็ต"  ที่จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญสร้าง "ชอปปิงพาราไดซ์" แทนฮ่องกง สิงคโปร์ 

วิไลพร กล่าวต่อถึง กลยุทธ์แห่งความสำเร็จที่ทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น “The World’s Luxury Magnitude” นอกจากการขยายพื้นที่แบรนด์แล้ว แต่ละแบรนด์ยังมี Exclusive Beach Collection และ Exclusive item ที่จะมีแค่ในเมืองท่องเที่ยวชายทะเลระดับโลกอย่าง ซานโตรินี ไมอามี่บีช ริเวียร่า ฮาวาย ซิดนีย์ ดูไบ ฮ่องกงยอดขายดี ติดอันดับโลก

โดยหลายแบรนด์ประสบความสำเร็จมียอดขายติดอันดับสูงสุดที่เซ็นทรัล ภูเก็ต และในบางสินค้าสามารถทำยอดขายติดอันดับเป็น Top Rank ของโลก

ทำให้หลายๆ แบรนด์เตรียมขยายพื้นที่ร้านเกือบเท่าตัวภายในปลายปี 2567 และจะมีแบรนด์ที่เตรียมจะเพิ่มขนาดร้านค้าให้ใหญ่กว่าเดิม

ขณะเดียวกัน “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ยังให้ความสำคัญกับการส่งมอบประสบการณ์ระดับไฮเอนด์ที่ดีไซน์เฉพาะกลุ่มลูกค้า VVIP Club ที่มี Luxury Services สำหรับ VVIP ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกระดับ Tycoon & Millionaire กว่า 2,300 คนที่จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ Butler แห่งแรกในไทย บริการ Luxe Limo Service และ Excusive Dining ที่ Su Va Na Restaurant The Ultimate Dining Experience จากร้านดังมากมาย

พร้อมสร้างสรรค์อีเวนต์และเทศกาลระดับโลกจัดต่อเนื่องตลอดทั้งปีสร้างความคึกคักและดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น เทศกาลสงกรานต์ Pride Month Countdown รวมไปถึง Art exhibition ที่รวบรวมศิลปินแถวหน้าจากทั่วโลก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเพิ่มสีสันทุกเดือน ให้ภูเก็ตเป็น Art Destination Landmarks

ความเพียบพร้อมของความครบสมบูรณ์แบบทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เที่ยวหาดทราย ชายทะเล ดำน้ำ ล่องเรือยอร์ช ออกเรือครุยซ์ มีแหล่งท่องเที่ยว man-made แหล่งชอปปิง เล่นกีฬา ฯลฯ  เรียกว่ามีพร้อม “5S” Sun-Sand-Sea-Shop-Sport  

เซ็นทรัล เฟสติวัล จะเป็น แฟมิลี่ เดสติเนชั่น และ เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า จะเป็น ไลฟ์สไตล์ เดสติเนชั่น ยกระดับและเติมเต็มทำให้ ภูเก็ต เป็นเมืองอินเตอร์เทียบเท่าลอนดอน นิวยอร์ก ปารีส นั่นคือ Positioning ที่อยากให้ภูเก็ตไปถึงตรงนั้นอย่างสมบูรณ์แบบ ขับเคลื่อนอีโคซิสเต็มของธุรกิจและเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...