หุ้นรถอีวีจีนพุ่งแรง 8% โล่งใจอียูขึ้นภาษีน้อยกว่าสหรัฐเยอะ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บรรดาหุ้นของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในจีนปรับตัวบวกแรงกันถ้วนหน้าระหว่างการซื้อขายวันนี้ (13 มิ.ย.) สวนทางกับข่าวร้ายที่สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่งประกาศขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์อีวีจากจีนจากอัตราเดิม 10% เพิ่มขึ้นอีกสูงสุด 38.1% มีผลวันที่ 4 ก.ค.นี้

หุ้นของบริษัท "บีวายดี" (BYD) ปรับตัวขึ้นถึง 8.8% ระหว่างการซื้อขาย และยังเป็นการปรับตัวขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 ในขณะที่ค่าย "จีลี่ ออโตโมบิล โฮลดิงส์" (Geely) และบริษัทเจ้อเจียง ลีปมอเตอร์ เทคโนโลยี (Leapmotor) ปรับตัวบวกกว่า 4% เช่นกัน    

นักวิเคราะห์ระบุว่าบีวายดีถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 17.4% ซึ่งเป็บระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทรถอีวีจีนและคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าเพื่อน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับค่าย SAIC ที่ถูกเรียกเก็บในอัตราสูงสุด 38.1% ซึ่งส่งผลให้หุ้นของ SAIC ปรับตัวลงหนักถึง 3.1% ระหว่างการซื้อขายวันนี้ 

ด้านบิลล์ รุสโซ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทที่ปรึกษาออโตโมบิลิตี้ ในเซี่ยงไฮ้ ให้มุมมองกับซีเอ็นบีซีว่า มาตรการของยุโรปในครั้งนี้มีขึ้นเพื่อต้องการ "ปราม" อีวีจีนให้ชะลอตัวลงมากกว่าจะเป็นการลงโทษจริงจัง
 

"มันเหมือนกับว่าถ้าบริษัทจีนนำหน้าเราอยู่ในเกมนี้ เราก็จะสกัดให้พวกเขาช้าลงและกระตุ้นให้พวกเขาเลี่ยงภาษีด้วยการย้ายมาผลิตที่นี่แทน" รุสโซกล่าว

ขณะที่แอนโทนี ซัซซีน นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจากบริษัท เครนแชร์ กล่าวว่า บรรดาค่ายรถยนต์จีนได้เตรียมทางหนีทีไล่ด้วยการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตในแถบยุโรปมากขึ้นแล้ว ซึ่งถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาษีให้บริษัทรถยนต์จีนได้ และเชื่อว่ารถยนต์จีนจะยังสามารถแข่งขันด้านราคาได้เหนือกว่ายุโรป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 14 พ.ค. "สหรัฐ" ได้ประกาศขึ้นภาษีรถยนต์อีวีจีนจากอัตรา 27.5% ขึ้นไปเป็น 102.5% โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการทางภาษีรับมือสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศ รวมมูลค่าราว 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) และจะเริ่มทยอยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีนี้ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้นอกจากอียูและสหรัฐแล้ว “ตุรกี” ยังเป็นอีกประเทศล่าสุดที่ประกาศเมื่อต้นเดือนมิ.ย.ว่า จะปรับขึ้นภาษีรถอีวีจากจีนเพิ่ม 40% ในขณะที่ประเทศ “แคนาดา” เคยเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้เช่นเดียวกัน

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ