‘สุกี้จินดา’ โกยรายได้ 18 ล้าน กำไร 3 แสนบาท หมาล่าสายพานยังไหว?

หลายปีที่ผ่านมาเป็นยุคทองของธุรกิจร้านอาหารหมาล่าในไทยสุดๆ จากการมาถึงของร้าน “ไหตี่เลา”  (Haidilao) เมื่อปี 2562 และรุ่งเรืองถึงขีดสุดจากลูกเล่นหมาล่าสายพานเจ้าแรกในไทยของ “สุกี้จินดา” สร้างปรากฏการณ์ต่อคิวยาวเหยียด จนมีร้านสายพานเจ้าใหม่ผุดขึ้นอีกนับร้อย นับพันแห่งทั่วประเทศภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

แต่เมื่อกราฟขึ้นไปแตะจุดสูงสุด ปลายปี 2566 ก็เริ่มเข้าสู่ปฐมบท “หมาล่าเฟ้อ” เมื่อผู้เล่นเยอะขึ้นแต่คนจ่ายมีจำนวนเท่าเดิม ร้านหมาล่าจึงต้องงัดหมัดเด็ดขึ้นมาช่วงชิงฐานลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการอัดโปรโมชันฟรีน้ำซุป-น้ำจิ้ม มา 3 จ่าย 2 ไปจนถึงยอมหักด้ามพร้า เปลี่ยนจากอะลาคาร์ต กินแค่ไหนจ่ายแค่นั้น เป็นรูปแบบ “All you can eat” หรือ “บุฟเฟ่ต์” ตามสไตล์ไทยนิยม หลังจากก่อนหน้านี้มีหลายเสียงพูดตรงกันว่า หมาล่าสายพานราคาสูงจนไม่สามารถกินตามใจปากได้

อย่างไรก็ตาม บริษัท สุกี้ จินดา จำกัด ส่งงบการเงินปี 2566 เรียบร้อยแล้ว โดยพบว่า มีรายได้รวม 18.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 324,448 บาท สินทรัพย์รวม 1.3 ล้านบาท และหนี้สินรวม 63,517 บาท ขณะนี้ร้านสุกี้จินดาเปิดให้บริการทั้งหมด 42 แห่ง กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และเริ่มบุกตามจังหวัดหัวเมืองใหญ่แล้ว อาทิ ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ระยอง เชียงใหม่ เป็นต้น 

ส่วนการเปลี่ยนแปลงจากอะลาคาร์ตสู่บุฟเฟต์ไม่ได้ทำครบทุกสาขา มีเพียง 35 จาก 42 แห่งเท่านั้น โดยในคราวแรกทดลองทำเพียงไม่กี่สาขาก่อน เมื่อกระแสตอบรับดีจึงขยายให้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงขยายเวลาโปรโมชันบุฟเฟ่ต์อย่างไม่มีกำหนดในราคา 388 บาทด้วย

ก่อนหน้านี้ “จินดา ล่อเจริญ” ผู้ก่อตั้งร้านสุกี้จินดาเคยให้ข้อมูลไว้ว่า ช่วงแรกที่ตนทำร้านหมาล่ารูปแบบบุฟเฟ่ต์พบว่า ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จึงหันมาเติมลูกเล่นสายพาน กินเท่าไหนจ่ายเท่านั้น ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ทว่า ในช่วงเวลาที่สายพานไม่ใช่กิมมิคเฉพาะตัวอีกต่อไป การปรับตัวสู่แนวทางที่คนไทยคุ้นเคยอย่างบุฟเฟ่ต์ ก็อาจเป็นคำตอบที่ทำให้หมาล่าสายพานยังไปต่อได้ ในวันที่ “ราคา” ยังเป็นแต้มต่อสำคัญ ท่ามกลางตลาดแข่งขันสมบูรณ์ที่พบเห็นร้านหมาล่าได้แทบทุกหัวมุมถนนเช่นนี้

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...