หวั่น ‘เงินเยนแข็งค่า’ ฉุดกำไร 28 บริษัทหุ้นบลูชิปญี่ปุ่น ร่วง 6 หมื่นล้านบาท

สำนักข่าวนิคเคอิรายงานว่า บริษัทหุ้นบลูชิปของญี่ปุ่นจำนวนมาก คาดการณ์ว่าค่าเงินเยนแข็งค่า จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวนจะส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานลดลง 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 6.2 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ 2567 

สถานการณ์พลิกผันอย่างรุนแรง เนื่องจากในปีที่แล้วบริษัทญี่ปุ่นมีกำไรเพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยน แต่ในตอนนี้บริษัทต่างๆคาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเป็นปัจจัยสำคัญของการชะลอตัวของผลกำไรในปีนี้ 

ทั้งนี้บริษัทต่างๆได้ประเมินอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยประมาณ 144 เยนต่อดอลลาร์ แม้ว่าจะยังห่างจากระดับปัจจุบันที่ประมาณ 156 เยนต่อดอลลาร์ แต่ความผันผวนในเดือนที่แล้วทำให้หลายบริษัทเลือกที่จะคาดการณ์ทิศทางในอนาคตของค่าเงินเยนอย่างค่อนข้างรัดกุม ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้ที่ดีกว่าที่คาดไว้ขึ้นอยู่กับความผันผวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ดัชนี Nikkei Stock Average เปิดเผยการสำรวจจาก 52 บริษัทขนาดใหญ่ที่คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทผู้ส่งออกในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การผลิตยานยนต์และเครื่องจักร บริษัทเหล่านี้คาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลง 1% เหลือ 16 ล้านล้านเยน ซึ่งถ้าไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจะเพิ่มขึ้น 1% 

จากบริษัท 52 แห่งที่ถูกสำรวจนั้น 28 แห่งคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราซึ่งมีมูลค่ากว่า 4.6 แสนล้านเยน นับรวมฮอนด้า มิตซูบิชิอิเล็กทริก และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เดนโซ

ในขณะที่อีก 22 แห่งคาดการณ์ว่าจะได้รับผลดี ซึ่งมีมูลค่า 1.9 แสนล้านเยน ซึ่งรวมถึงนิสสันมอเตอร์ โตโยต้ามอเตอร์ และโอลิมปัส ทั้งนี้บริษัทอีกสองแห่งคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบ

รวมทั้ง ผลกำไรของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำ 7 แห่งของญี่ปุ่นคาดว่าจะได้รับผลกระทบทำให้มูลค่าลดลงราว 1 แสนล้านเยน หลังจากที่ในปีงบประมาณที่แล้วได้รับผลดีประโยชน์จากเงินเยนแข็งค่ากว่า 1.15 ล้านล้านเยน 

“ฮอนด้า” ปรับคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนในระดับต่ำสุดของช่วงนี้ ซึ่ง ไอจิ ฟูจิมูระ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินเรียกว่าเป็นสถานการณ์ที่ "ค่อนข้างระมัดระวัง" เพราะจะส่งผลให้กำไรลดลงถึง 2 แสนล้านเยนพร้อมเผยว่า ในระดับอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ อาจทำให้ฮอนด้าต้องปรับคาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนไปที่ระดับ 135 เยนในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ"

ด้านโคมัตสุคาดว่าจะได้รับผลกระทบที่มีมูลค่าถึง 2.8 หมื่นล้านเยนจากเงินเยนแข็.ค่า ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานประจำปีลดลง 8% ขณะที่ฮิตาชิ คอนสตรัคชั่น แมสชินนารี่ คาดการณ์ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะลดลง 2%

สำหรับผู้ผลิตซีอิ๊ว “คิกโคแมน” (Kikkoman) ซึ่งทำกำไรจากการส่งออกและธุรกิจนอกประเทศญี่ปุ่นถึง 90% คาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นที่ 4.4 เยนต่อดอลลาร์ ส่งผลให้กำไรจากต่างประเทศลดลง 1.5 พันล้านเยน

อย่างไรก็ตาม บริษัทอื่นๆ อาจประสบปัญหามากขึ้นหากเงินเยนอ่อนค่าลง เช่น  นิโตริ โฮลดิ้งส์ ผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ก็จะทำกำไรน้อยลงเมื่อค่าเงินเยนอ่อนค่า

รวมทั้ง การที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลง 1 เยนต่อดอลลาร์จะทำให้กำไรของ “นิปปอนเปเปอร์อินดัสตรีส์” ลดลง 700 ล้านเยน เนื่องจากต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น เช่น ถ่านหิน น้ำมันดิบ และแป้งไม้สับ ทำให้บริษัทผลิตกระดาษรายนี้คาดการณ์อัตราแลกเปลี่ยนที่ 155 เยนต่อดอลลาร์

 

คำแถลงปฏิเสธความรับผิดชอบ: ลิขสิทธิ์ของบทความนี้เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ การเผยแพร่ซ้ำบทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน หากมีการละเมิดกรุณาติดต่อเราทันที เราจะทำการแก้ไขหรือลบตามความเหมาะสม ขอบคุณ



หมวดเดียวกัน

'นิคมโรจนะ'โซนอันตรายเหลือขายสูงสุดมูลค่า1.7หมื่นล้าน

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจอุปทานโดยรวมภาคกลาง ในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่อยู่อาศัยเสนอขายทั...

ตลาดหุ้นสหรัฐแทบไม่ขยับ นักลงทุนชะลอซื้อหลังดัชนีพุ่งแรงวันก่อน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้น...

เจาะพอร์ต 5 เซียนชื่อดัง ถือหุ้นปันผลสูงเกิน 5% รวม 18 หลักทรัพย์

การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้องค์ความรู้มาวิเคราะห์ สังเคราะห์ในทุกปัจจัยอย่างละเอียด ซึ่งม...

น้ำนมดิบอินทรีย์ สร้างรายได้ให้เกษตรกรครบวงจร

นางอังคณา พุทธศรี ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 7 ชัยนาท (สศท.7) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (...